นายกฯ ขอกาตาร์ นำเข้าข้าว ยาง และปาล์มจากไทย

นายกฯ ขอกาตาร์ นำเข้าข้าว ยาง และปาล์มจากไทย

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 กันยายน ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เชค ญัสซิม บิน อับดุลเราะฮ์มาน บิน มุฮัมมัด อาลอับดุลเราะฮ์มาน อัษษานี (H.E. Sheikh Jassim Bin Abdulrahman Bin Mohammed Alabdulrahman Al-Thani) เอกอัครราชทูตรัฐกาตาร์ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีขอบคุณเอกอัครราชทูต สำหรับบทบาทอย่างแข็งขัน บทบาทการเป็น Friend of Thailand ในการดำรงตำแหน่ง เป็นผู้มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์ระหว่างไทย-กาตาร์ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และขอให้ถือว่าประเทศไทยเป็นเสมือนบ้านหลังที่ 2 ในโอกาสนี้ขอแสดงความยินดีที่เอกอัครราชทูต ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตรัฐกาตาร์ประจำรัฐสุลต่านโอมาน เชื่อมั่นว่าเอกอัครราชทูต จะประสบความสำเร็จ และส่งเสริมให้ไทยเป็นมิตรประเทศที่ดีกับโอมานด้วย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่ารัฐบาลยินดีร่วมงานกับเอกอัครราชทูตรัฐกาตาร์ คนใหม่ และสานต่อความร่วมมือระหว่างไทยและกาตาร์ให้แน่นแฟ้น

นางนฤมล กล่าวว่า รัฐบาลกาตาร์ รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ดำรงตำแหน่งในประเทศไทย ชื่นชมวัฒนธรรมและความสวยงามในไทย โดยระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งเห็นว่าไทยและกาตาร์มีความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ใกล้ชิด และมีพลวัตมากยิ่งขึ้น ทั้งสองฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับสูง ทั้งระดับราชวงศ์ และระดับรัฐบาล มีการหารือระดับสูง ส่งผลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายได้นำผลจากการหารือไปปฏิบัติเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ พร้อมสนับสนุนความร่วมมือระหว่างกันต่อไปเพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศ ในการนี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกาตาร์ และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ฝากความปรารถนาดีมายังนายกรัฐมนตรีด้วย

นางนฤมล กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นตรงกันว่า พร้อมที่จะสานต่อความร่วมมือในมิติต่างๆ และสนับสนุนซึ่งกันและกันในเวทีระหว่างประเทศ โดยมีประเด็นสำคัญที่ได้หารือและพร้อมมีความร่วมมือ ได้แก่ ด้านพลังงาน อาหาร อาหารฮาลาล และการค้าการลงทุน พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้กาตาร์พิจารณาร่วมลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) เพิ่มขึ้น และนายกรัฐมนตรียังขอบคุณที่กาตาร์ยินดีสนับสนุนและมอบทุนการศึกษาให้กับเยาวชนไทย เพื่อเพิ่มโอกาสและพัฒนาทรัพยากรบุคคลของไทย ทั้งนี้ รัฐบาลไทยยินดีที่ชาวกาตาร์เดินทางมาท่องเที่ยวและรับการรักษาพยาบาลในไทยจำนวนมาก โดยทั้งสองฝ่ายพร้อมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวระหว่างกันเพื่อส่งเสริมความเข้าใจระดับประชาชน ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้ขอให้รัฐบาลกาตาร์พิจารณานำเข้าสินค้าเกษตรกรรมของไทยที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าว ยาง และปาล์ม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image