เมื่อวันที่ 8 กันยายน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พรรคประชาธรรมไทย ยืนยันยังไม่ได้ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เป็นแต่เพียงการขอแยกห้องทำงาน ว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคการเมืองขนาดเล็กจะเจรจาต่อรอง ข่มขู่ กดดัน เรียกรับผลประโยชน์ พอไม่ได้ก็โวยวาย พอเคลียร์กันเสร็จก็พลิกลิ้นกลืนน้ำลายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างไรก็เป็นสิทธิ แต่ไม่ควรทำให้เกิดข่าวลักษณะแบบนี้บ่อยครั้งเพราะทำให้ประชาชนสิ้นหวังและน่ารำคาญ ในขณะที่ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจรัฐบาลก็ยังแก้ไม่ได้ ปัญหาภัยแล้งน้ำท่วมก็กลับมาซ้ำเติม พวกท่านจะแยกห้อง รวมห้องกัน ก็ขอให้เป็นเรื่องภายใน อย่าใช้พื้นที่สาธารณะเพื่อการเจรจาต่อรอง
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า มุมมองการร่วมกันสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งของพรรคพปชร. กับพรรคการเมืองขนาดเล็กนั้นมีความแตกต่างกัน พล.อ.ประยุทธ์ คิดว่าการที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ เพราะมีส.ว.250 คนช่วยโหวต ในขณะที่พรรคเล็กคิดว่าตัวเองมีความสำคัญ ถ้าไม่มีสูตรคำนวณ ส.ส.พิสดาร จนเกิดพรรคเล็กและไม่โหวตให้ไม่มีทางได้เป็น ด้วยความเข้าใจในบริบทที่แตกต่างกัน เวลาเกิดความขัดแย้ง ต่างฝ่ายจึงต่างตีความในมุมมองของตัวเอง ข่าวลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายครั้งในรัฐบาลประยุทธ์ ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์ เริ่มต้นเป็นงูเห่า ลงท้ายเป็นแค่ลิงงอแงอยากได้กล้วย พอเขาให้กล้วยกินอิ่ม ก็เงียบ รัฐธรรมนูญที่ทำให้ระบบพรรคการเมืองอ่อนแอ เกิดการเจรจาต่อรอง เป็นใบเสร็จยืนยันว่าการปฏิรูปการเมืองไม่มีอยู่จริง ปฏิรูปต้องนำพาการเมืองของประเทศก้าวไปข้างหน้า ไม่ใช่ทำให้การเมืองไทยย้อนยุคไป 40 ปี
“จะตบจูบกันอย่างไร ไปทำกันหลังม่าน ไม่ต้องมาโชว์ประชาชนเบื่อหน่ายและไม่ได้ประโยชน์ ที่ผ่านมาข่าวลักษณะพรรคร่วม พรรคเล็ก ข่มขู่กรรโชกทรัพย์ ตบทรัพย์กันทางการเมือง มีให้เห็นตลอด ยึดผลประโยชน์ของพรรคตัวเองให้น้อย คิดถึงประโยชน์ของประชาชนให้มาก” นายอนุสรณ์ กล่าว
