มติเอกฉันท์ “ฝ่ายรบ.-ค้าน” เห็นชอบ เลื่อนลำดับญัตติแก้รธน.ขึ้นพิจารณาทันที เมื่อเปิดสมัยประชุมหน้าพ.ย.นี้
เมื่อเวลา 10.25 น. วันที่ 13 กันยายน ที่รัฐสภา เกียกกาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษ ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติเร่งด่วนและญัตติตกค้างในระเบียบวาระการประชุมมากถึง 117 เรื่อง โดยทันทีที่เข้าสู่วาระการประชุม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ได้ขอใช้สิทธิเสนอให้เลื่อนญัตติการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี 2560 ที่อยู่ในวาระท้ายๆขึ้นมาพิจารณาต่อท้ายเรื่องเร่งด่วนลำดับที่ 6 ในเรื่องการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศและคำสั่งของคสช.และการใช้อำนาจของหัวหน้าคสช.ตามมาตรา 44 ทำให้นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นคัดค้านทันทีเช่นกัน และขอเสนอญัตติให้ดำเนินการพิจารณาไปตามวาระปกติ
จากนั้น วิปฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายว่า สิ่งที่นายสมพงษ์เสนอนั้นได้พูดคุยกันระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายค้านเรียบร้อยแล้ว โดยญัตติการตั้งกมธ.วิสามัญศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ฝ่ายค้านเสนอนั้น ขอให้มาต่อท้ายเรื่องด่วนที่ 6 เพื่อให้ได้คิวอยู่ในวาระแรก เมื่อมีการเปิดประชุมสภาฯในสมัยหน้า โดยไม่ได้มุ่งหวังให้พิจารณาตั้งกมธ.ทันที เพราะดูจากวาระแล้ว คงพิจารณาเสร็จไม่ทันภายในวันที่ 13 กันยายนที่จะต้องปิดประชุมในเวลา 18.00น. ทำให้ นายวีระกร จึงยินยอมถอนญัตติ โดยไม่ทักท้วงต่อ ทำให้นายชวนในฐานะประธานการประชุม ได้ขอให้ที่ประชุมลงมติว่า จะให้เลื่อนญัตติการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี 2560 ขึ้นมาหรือไม่ตามที่นายสมพงษ์เสนอหรือไม่
ผลปรากฏว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ด้วยคะแนน 436 ต่อ 0 ให้เลื่อนลำดับ ตามที่นายสมพงษ์เสนอมา โดยนายชวนแจ้งด้วยว่า ญัตติเกี่ยวกับการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของพรรคการเมืองอื่นๆที่เสนอมา ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคพลังประชารัฐ จะให้นำมาพิจารณารวมเป็นเรื่องเดียวกัน เมื่อเปิดสมัยประชุมสภาฯในเดือนพฤศจิกายน
