“วิปค้าน” เคาะ 15 ขุนศึกอภิปรายซักฟอกนายกฯ ขอฟาก รบ. อย่าป่วน-ดึงเกม ด้าน “สุทิน” อัด ทัศนคตินายกฯ บอก ปชช.ของบไม่ผิด คนผิดคือรบ.-นายกฯ เหน็บ นายกฯคนอื่นสู้เคียวบ่าปชช. ไม่ใช่มาสวนปชช.แบบนี้
เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 17 กันยายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคพท. และนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงภายหลังการประชุมวิปฝ่ายค้านของทั้ง 7 พรรค
โดย น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า สำหรับการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 กรณีถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วนนั้น เพื่อให้การอภิปรายไม่ซ้ำซ้อน ราบรื่น และเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนที่ติดตาม หวังว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะมาชี้แจงในประเด็นดังกล่าวด้วยตัวเอง เพื่อสร้างความกระจ่างให้สังคมว่า ข้อความที่หายไปนั้นมีนัยยะอะไรหรือไม่ ทั้งนี้ หลายเดือนที่ผ่านมาสังคมกังขา แค่นายกฯกล้าพูดความจริงทุกอย่างจะมีทางออก ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมากมายปรับฮวงจุ้ยทำเนียบ แล้วเอาไปช่วยพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมจะดีกว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่านายกฯ จะไม่ลับลวงพราง ไม่อ้างว่าติดภารกิจแล้วให้คนอื่นมาชี้แจง เพราะเราได้ยื่นเสนอเรื่องการอภิปรายไปนานแล้ว และทางรัฐบาลก็เป็นคนกำหนดวันเวลาเอง
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่า ขอเรียกร้องนายกฯว่า ไม่ควรใช้เวทีเปิดการสัมมนาบุคลากรภาครัฐหรือเวทีแสดงวิสัยทัศน์การทำงาน เป็นเวทีระบายความคับข้องหมองใจจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล เพราะการเตรียมงานแต่ละเวทีจะต้องใช้งบประมาณจำนวนหลายล้านบาท แต่แทนที่ข้าราชการจะได้ฟังนโยบายหรือแนวทางการทำงานเพื่อเอาไปปรับใช้ในการทำหน้าที่ กลับต้องมาทนนั่งฟังผู้นำระบายความในใจหรือพร่ำบ่น แก้ต่างในความผิดพลาดของตัวเอง ซึ่งไม่มีผู้นำที่ไหนในโลกเขาทำกัน
ด้านนายสุทิน กล่าวว่า ท่าทีของนายกฯในการช่วยเหลือน้ำท่วม รวมถึงการตอบคำถามเป็นท่าทีที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เป็นปัญหาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการบอกว่าชาวบ้านขอแต่เงิน หรือการบอกว่ามีแต่คนด่า เป็นท่าทีที่เหนื่อยหน่าย ไม่สู้ปัญหา ขอฝากนายกฯว่า ทุกนายกฯ เจอสภาพนี้ทั้งนั้น เพราะเป็นสถานการณ์ที่ประชาชนลำบาก ต่างต้องแสวงหาความช่วยเหลือ ซึ่งคนช่วยควรเป็นรัฐบาล แต่เมื่อรัฐบาลช่วยไม่ได้ก็ต้องมีการตำหนิติติง ทุกรัฐบาลถูกตำหนิ แต่ไม่มีรัฐบาลไหนแสดงอาการตำหนิสะท้อนกลับมาสู่สังคมแบบนี้ เป็นการแสดงทัศนคติเชิงลบ ทั้งนี้ การที่ชาวบ้านขอเงินเป็นความชอบธรรมของชาวบ้าน เพราะชาวบ้านเป็นผู้เสียภาษี แต่เป็นความผิดของรัฐบาลที่ปิดบังงบประมาณ ไม่บอกที่มาของรายได้ ดังนั้น เป็นหน้าที่ของนายกฯที่จะมาตอบคำถามเรื่องนี้ในสภา มีหรือไม่มีเงินรัฐบาลก็ต้องชี้แจง
“นายกฯอื่นเจอสึนามิหนักมากแต่ก็ไม่เห็นบ่น แต่ร่วมเรียงเคียงบ่าช่วยประชาชนจนสถานการณ์บรรลุ ขณะที่ปี 54 น้ำท่วมหนักทั่วประเทศ แต่นายกฯไม่เห็นบ่น ไม่เห็นค่อนขอดไปที่ประชาชนแบบนี้ แต่น้ำท่วมปีนี้ไม่ได้หนักมากเพียงภาคอีสานไม่กี่จังหวัด ท่านเป็นชายชาติทหารแต่อ่อนแอกว่าผู้หญิง ถ้าท่านเป็นแบบนี้ ชาวบ้านจะรู้สึกว่า ไม่มีความหวังว่าจะพึ่งพานายกฯคนนี้ได้หรือไม่” นายสุทิน กล่าว
นายสุทิน กล่าวอีกว่า สำหรับการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ในวันที่ 18 กันยายนนี้นั้น ขณะนี้ได้มีการปรับลดจำนวนผู้อภิปรายเหลือเพียง 15 คน อาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคพท. ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคพท. นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคพท. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคพท. นายชวลิตย วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคพท. น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพท. น.ส.สิริกัญญา ตันสกุล และนายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนค. ขณะที่ตนเองจะเป็นผู้อภิปรายสรุปปิดท้าย ทั้งนี้ เราไม่มีปัญหาในเรื่องของเวลา แต่หากนายกฯตอบคำถามไม่สมบูรณ์เราก็จะต้องใช้เวลาในการอภิปรายอย่างเต็มที่ ดังนั้น ขอความร่วมมือจากฝ่ายรัฐบาลว่าอย่าป่วน อย่าใช้วิธีการทำลายจังหวะของฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตาม เรากังวลว่ารัฐบาลจะใช้เสียงข้างมากเสนอปิดประชุมก่อน หรือขออภิปรายลับ เสนอนับองค์ประชุม ไปจนถึงการลงชื่อช้าจนเริ่มประชุมช้า เพราะจะทำให้เวลาของฝ่ายค้านบีบลงและกระต่อเวลาในการอภิปราย ขอร้องว่าอย่าทำ
นายสุทิน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้แจ้งขอร่วมอภิปรายปมถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนของนายกฯ ด้วย ซึ่งได้แบ่งเวลาให้นายมงคลกิตติ์ร่วมอภิปราย 10 นาที
