จ้อน ซัดสปท.จงใจบิดเบือน-ปล่อยข่าวใส่ร้ายกันเอง โว สปท.พาประเทศตั้งลำได้

“จ้อน” ซัด พวกวิจารณ์แม่น้ำ 5 สายไร้ผลงาน ชี้ไม่เป็นธรรม จ้องตัดกำลังใจคนทำงานถึงขั้นบิดเบือนชื่ออนุ กมธ.หวังใส่ร้าย โว สปท.ปฏิรูปจนพาประเทศตั้งลำได้แล้ว

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) กล่าวถึงข้อวิจารณ์ สปท.ว่าไม่มีผลงาน และการปฏิรูปของแม่น้ำ 5 สายล้มเหลวว่า ไม่เป็นธรรมต่อคนทำงาน และคนรับผิดชอบ โดยเฉพาะสปท. คณะรัฐมนตรี(ครม.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เพราะการปฏิรูปเริ่มมาตั้งแต่พฤษภาคม 2557 ถึงวันนี้ ช่วยฟื้นฟูพัฒนาและปฏิรูปประเทศจากสถานการณ์ที่ประเทศเกือบเกิดสงครามกลางเมือง เป็นรัฐที่ล้มเหลวมาสู่ความสงบสันติ จนสามารถตั้งหลัก ตั้งลำประเทศได้ด้วยการปฏิรูป มีผลเป็นรูปธรรมในหลายด้าน เพราะเราทำงานปฏิรูปอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ในข้อบังคับของสปท.จึงให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ซึ่ง ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสปท. ได้แต่งตั้งสมาชิก สปท. 7 คน เป็นกรรมการ โดยมีตนเป็นประธาน เพื่อประชุมและประสานงานกับภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งติดตามความคืบหน้าของการปฏิรูปและจัดทำรายงานทุกสัปดาห์ ซึ่งเป็นงานที่หนักมากสำหรับกรรมการ 7 คน

นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า เมื่อทำงานไประยะหนึ่ง ตนจึงปรึกษาท่านประธานว่า ควรตั้งคณะกรรมการบริหารเครือข่ายร่วมขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เพื่อดำเนินการประสานงานกับภาคีภาคส่วนต่างๆ ในภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาควิชาการช่วยเสริมงานของคณะกรรมการประสานงานการขับเคลื่อนการปฏิรูป และท่านประธานก็เห็นชอบ จึงแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ซึ่งการดำเนินงานของคณะกรรมการทั้ง 2 คณะ มีความคืบหน้าตามแผนงานได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายตลอดมา ทั้งนี้ การแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารเครือข่ายฯ มีผู้ทรงคุณวุฒิจากบุคคลภายนอก สมาชิก สปท.เป็นที่ปรึกษา และกรรมการรวม 12 คน เราทำงานกันอย่างหนัก ต้องออกไปประชุมชี้แจงทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพื่อประสานงานสร้างความเข้าใจ และความร่วมมือกับองค์กรเครือข่าย จึงได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 3 คณะ คือ 1.คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนองค์กรเครือข่าย ส่วนใหญ่ของอนุกรรมการเป็นตัวแทนองค์กรเครือข่ายที่เสนอชื่อมาทำหน้าที่มีนายอำนวย ปะติเส อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน 2. คณะอนุกรรมการฝ่ายวิชาการและฝึกอบรม มีตนเป็นประธาน และ 3.คณะอนุกรรมการประสานงานเครือข่ายสื่อสารมวลชน มีนายโฆษิต สุวินิจจิต เป็นประธาน

“ต้องชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะมีการเสนอข่าววิพากษ์วิจารณ์ สปท.แบบเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง จะโทษสื่อมวลชนก็คงไม่ได้ เพราะสื่อมวลชนไม่ได้เขียนข่าวขึ้นมาลอยๆ แต่ในวันลงนามเอ็มโอยู เมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา มีสปท.ท่านหนึ่ง ไปปล่อยข่าวใส่ร้าย ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่เคยปล่อยข่าวดิสเครดิตสปท. และครม.ว่า ไม่มีผลงาน จนทำให้สปท.เสียหาย อีกทั้งคอลัมนิสต์บางส่วนก็นำข่าวสารที่ผิดพลาดบิดเบือนเหล่านี้ไปวิจารณ์ต่อ โดยไม่ทราบข้อมูลที่ถูกต้อง และไม่ตรวจสอบ ถือเป็นการดูแคลนองค์กรเครือข่ายที่ตั้งใจจะมาช่วยกันขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศให้เสียหาย และเสียกำลังใจ ถึงขนาดบิดเบือนชื่อคนในอนุกรรมการ เพื่อใส่ร้ายกัน เช่น บิดเบือนจากชื่อนายนิยม ไวยรัชพานิช ซึ่งเป็นรองประธานหอการค้าไทย เป็นนายนิคม ไวยรัชพาณิช อดีตประธานรัฐสภา แบบนี้เป็นต้น” รองประธาน สปท.คนที่ 1 กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image