อาจารย์ ม.รังสิต รับ 13 ปีก่อน ‘เกลียดทักษิณ’ ถูกรุมโทรด่าปมทอง 5 พันล้านถ้ำลิเจีย สุดท้ายเปลี่ยนความคิด

อาจารย์ ม.รังสิต รับ 13 ปีก่อน ‘เกลียดทักษิณ’ ถูกรุมโทรด่าปมทอง 5 พัน ล.ถ้ำลิเจีย สุดท้ายเปลี่ยนความคิด

เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. วันที่ 28 กันยายน ที่ห้องประชุม 14 ตุลา อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ มีการจัดเสวนาหัวข้อ ‘13 ปีรัฐประหาร 49 ก้าวพ้นหรือย่ำวนในวงจรของทรราช?’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในเสวนามีผู้เข้าร่วมจำนวนมากจนที่นั่งไม่เพียงพอ ทั้งประชาชนทั่วไป นักศึกษาจากสถาบันต่างๆ รวมถึงกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นต้น โดยในช่วงก่อนเสวนามีการเปิดคลิปวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์รัฐประหาร 2549 จากนั้นเข้าสู่ช่วงเสวนา

ในตอนหนึ่ง ผศ.ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต กล่าวว่า ในการเลือกตั้ง 62 เป็นกระบวนการรักษาอำนาจทางการเมือง ซึ่งผลก็เป็นไปตามแผนที่ถูกวางไว้ แต่แผนที่ไม่อาจคาดถึงคือปัจจัยใหม่ๆ คือ เกิดพรรคคนหนุ่มสาวที่ได้คะแนนเสียงเยอะอยู่นอกการคาดการณ์ ย้อนกลับไป 13 ปีที่แล้ว ตนเกลียดทักษิณ เพราะภายในการเป็นบริบทอาจารย์ในไทยไม่ว่ายุคไหน นักวิชาการอาจเหมือนกระบอกเสียงของสังคมที่จะวิพากษ์รัฐบาล แต่สุดท้ายเดินไปสู่ข้อหามากมาย ปรากฏการณ์ของยุคทักษิณคือตนถูกคนโทรไปด่าหลังให้สัมภาษณ์ว่าไม่เชื่อว่ามีทองคำในถ้ำลิเจีย 5 พันล้าน โดยตนถูกมองว่าไปวิพากษ์ทักษิณ ต่อมา ยังถูกไอทีวีฟ้อง 80 ล้าน จากการเขียนบทความ 70 บรรทัด ได้เงินมา 1,000 บาทในหนังสือพิมพ์ที่ไม่มีใครอ่าน ต้องขึ้นศาล 2 ปี แต่พอไปสิงคโปร์ มองกลับมายังไทย รู้สึกเห็นโลกกลับตาลปัตร มานั่งคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยกันแน่

Advertisement

“ก่อนรัฐประหาร 49 ทักษิณทำให้นักวิชาการถอยออกจากการปกป้องประชาธิปไตย นี่คือสิ่งที่อยากชี้ให้เห็นว่าบทบาททางการเมืองของปัญญาชนที่มีส่วนร่วมกับรัฐประหาร 49 ถามว่า รัฐประหารครั้งนั้นเสียของจริงหรือ ผมเชื่อว่ากลับทำให้ได้ของที่อยากได้ โดยรอคอยจังหวะและเวลา กรณี คสช.เป็นรัฐบาลที่รวมดาวอดีต ผบ.ทบ.มากที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ไทย ก่อนหน้านั้นไม่เคยมี เพราะเป็นการรอคอยมานาน” ผศ.ดร.ธำรงศักดิ์กล่าว

ผศ.ดร.ธำรงศักดิ์กล่าวต่อว่า เราถูกปลูกฝังให้รับการรัฐประหารอย่างไม่มีข้อแม้ และเกลียดนักกการเมืองจากการเลือกตั้งซึ่งถูกตราหน้าว่าซื้อเสียง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทักษิณเปลี่ยนความคิดของตนคือ ทำให้รู้ว่าไม่มีอะไรทำไม่ได้ เช่น รถเมล์ฟรี ส่วนกรณีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงในหน้าประวัติศาสตร์กลับถูกกระทำเหมือนทาส โดนเรียกว่า “อีปู” แทนที่จะโห่ร้องว่าเป็นชัยชนะของสตรี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image