เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์กรณีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไม่เห็นด้วยในการเรียก พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการสำนักงานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4) มาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ปมฟ้องเอาผิดแกนนำพรรคฝ่ายค้านและนักวิชาการ 12 คน ขึ้นเวทีเสวนาแก้รัฐธรรมนูญที่ จ.ปัตตานี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ว่า เป็นคนละส่วนกัน เนื่องจากมีกลุ่มนักศึกษาและประชาชนที่ถูก พล.ต.บุรินทร์แจ้งความตลอด 5 ปี เขาทำหนังสือร้องมาที่กมธ.ที่ตนเป็นประธาน ซึ่งตนนำเรื่องบรรจุเข้าระเบียบวาระ ในท้ายที่สุดต้องสอบข้อเท็จจริง ซึ่งก็หนีไม่พ้นเรียกบุคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง เป็นอำนาจของกมธ.ตามรัฐธรรมนูญ ตามข้อบังคับ ไม่มีเกินกรอบกฎหมายแน่นอน และยิ่งมีคนร้องเรียนมาด้วย เราก็จัดเข้าสู่ระเบียบวาระต่อไป แต่ไม่ได้เร่งด่วนทันที ซึ่งกรณี พล.ต.บุรินทร์จะเรียกเมื่อไหร่ก็ว่าไปตามลำดับเรื่อง เราไปแทรกแซงอะไรไม่ได้ นายสิระลองไปเปิดรัฐธรรมนูญดูแล้วกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในแง่หนึ่ง คนรู้สึกว่าเป็นการเอาคืนหรือไม่ เพราะฝ่ายรัฐก็ใช้กลไกแบบนี้ ส่วนฝ่ายค้านก็มีกลไกที่สามารถเรียกเข้ามาให้ข้อมูลได้ นายปิยบุตร กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นคนริเริ่ม แต่เรื่องดังกล่าวมีคนมาร้อง หากมีคนมาร้องแล้วตนไม่ทำอะไรเลยก็เป็นการละเว้น และเรื่องที่มาร้องไม่ใช่เรื่องของ 7 พรรคฝ่ายค้าน แต่เป็นเรื่องของประชาชนที่โดนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยพล.ต.บุรินทร์ไปแจ้งความเขาเต็มไปหมดตลอด 5 ปี สร้างความลำบากให้ชีวิต และ กมธ.ที่ตนเป็นประธานก็ทำเรื่องสิทธิมนุษยชนและกฎหมาย เราก็มีความคิดว่าในอนาคตจะจัดเสวนาจากผู้รู้ถึงกฎหมายแอนตี้สแลป ที่เป็นเรื่องใหญ่ ต่างประเทศเขานำมาใช้ ประเภทไปแจ้งความกันมั่วซั่วเพื่อปิดปากคนอื่น สื่อมวลชนก็โดนผลกระทบเยอะ อยากแสดงความคิดเห็นอะไรก็โดนฟ้องหมิ่นประมาท ไม่กล้าพูดต่อ ดังนั้นกฎหมายแอนนี้สแลปจึงเป็นสิ่งที่จะประกันเสรีภาพในการแสดงออก และขอยืนยันว่าเรื่องนี้ทำตามกระบวนการ
เมื่อถามว่า นายสิระ มองว่าเพราะหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ถูกแจ้งความมาตรา 116 จึงมีการเร่งในเรื่องนี้ นายปิยบุตร กล่าวว่ายืนยันว่าเราไม่ได้เร่ง หนังสือร้องเรียนเพิ่งมาถึงเมื่อวันพุธที่ 2 ตุลาคม ร้องตัวพล.ต.บุรินทร์ ก็ว่าไปตามกระบวนการ ซึ่งตนก็ได้ยินข่าวว่าท่านพร้อมจะมา ถือเป็นเรื่องปกติในการชี้แจง
“ผมก็อยากทราบว่าท่านอ่านมาตรา 116 อย่างไรถึงไปฟ้องเขาไปทั่ว อย่างกรณีที่ไปฟ้องร้องงานที่จังหวัดปัตตานี อ่านอย่างไรมันก็ไม่เข้ามาตรา 116 แล้วท่านไปฟ้องทำไม สุดท้ายใครก็ได้ที่ไปฟ้องอย่างนั้นหรือ กฎหมายเป็นเครื่องมือในการอำนวยความยุติธรรม หรือเป็นเครื่องมือนำมาใช้กลั่นแกล้งในทางการเมืองกันแน่ ในฐานะที่ท่านเป็นข้าราชการสังกัดกระทรวงกลาโหมควรระมัดระวัง และยืนยันว่าการเชิญมาชี้แจงเป็นการดำเนินการตามกลไกของสภาฯ เมื่อก่อนก็ทำเป็นเรื่องปกติ นอกจากนั้นยังมีพระราชบัญญัติให้อำนาจคณะกรรมาธิการเรียกด้วย ใครไม่มามีโทษ ยืนยันคณะกรรมาธิการชุดนี้ ไม่ทำอะไรในข่ายที่ไปกลั่นแกล้งคนอื่นแน่นอน” นายปิยบุตรกล่าว