เพื่อไทย ดาหน้า ถล่ม กองทัพซื้อฮ.-เรือแพงเว่อร์ อัดบิ๊กตู่ หนุนสปีชผบ.ทบ.สร้างแตกแยก

เพื่อไทย ดาหน้า ถล่ม กองทัพซื้อฮ.-เรือแพงเว่อร์ อัด “บิ๊กตู่” แย่ หนุน ผบ.ทบ.สปีช ทำแตกแยก ตั้งแท่นเปิดซักฟอก ถ้าแจงไม่เคลียร์ พ.ย.เอาแน่

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการอภิปรายในช่วงเย็นไปจนช่วงหัวค่ำ ส.ส.ซีกฝ่ายค้านยังคงเดินหน้าอภิปราย‪ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 อย่างต่อเนื่อง โดยพุ่งเป้าไปยังงบประมาณของกองทัพ และความมั่นคง โดย‬ ‪นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายงบกระทรวงกลาโหมว่า ขอตั้งสังเกตการจัดสรรงบประมาณกองทัพไว้ 3ข้อได้แก่ 1.งบกระทรวงกลาโหมในร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2563 โดยเฉพาะโครงการจัดซื้ออาวุธของกองทัพ 19 โครงการ วงเงิน 16,567 ล้านบาท‬ ไม่มีการแสดงรายละเอียดการใช้งบประมาณต่างจากกระทรวงอื่น เช่น กระทรวงมหาดไทยที่ลงรายละเอียดลึกถึงระดับจังหวัด 2.การตั้งงบผูกพันของกระทรวงกลาโหมปี ‪2562-2569‬ ในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกองทัพไทย ตั้งงบผูกพันไว้สูงถึง 87,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นการสร้างหนี้ให้คนไทยล่วงหน้าในอนาคตถึง 7 ปี 3.สังคมให้ความสงสัยการจัดซื้ออาวุธของกองทัพว่าโปร่งใสเพียงใด เพราะล่าสุดป.ป.ช.ได้ประเมินความโปร่งใสของหน่วยงานภาครัฐ พบว่า กระทรวงกลาโหมได้คะแนนต่ำสุดในเรื่องคุณธรรม และความโปร่งใส

“ผมขอยกตัวอย่างการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ AH 6I จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งในปี2557 ซาอุดิอาระเบียจัดซื้อเครื่องบินดังกล่าวในราคาลำละ 300ล้านบาท แต่ประเทศไทยซื้อในปี2562 ราคาลำละ 528 ล้านบาท แพงกว่ากันถึง 228ล้านบาท ขณะที่กองทัพเรือจัดซื้อเรือลำเลียงพลมือ2 จากสหรัฐฯ ในราคาลำละ 6,200 ล้านบาท ทั้งที่ราคาตลาดอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท ทั้งที่ประเทศไทยมีเรือหลวงอ่างทอง ซึ่งเป็นเรือลำเลียงพลอยู่แล้ว และยังใช้งานได้ดีอยู่ แสดงให้เห็นว่าใช้เงินโดยไม่มีความจำเป็น ควรเอาเงินไปแก้ปัญหาด้านราคาพืชผลการเกษตร การศึกษา สาธารณสุขจะเหมาะสมกว่า” ‪นายประเสริฐ กล่าว‬

ด้าน นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า จากการตรวจดูงบด้านความมั่นคงพบว่า มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าตอบแทนของนายพลที่มีตำแหน่งระดับสูง มากถึง 70% มีเพียง 30% ใช้สำหรับงาน ขณะนี้ตำแหน่งนายพลมีจำนวนมาก เพราะมีการเพิ่มตำแหน่งพิเศษ คาดว่าจะมีค่าตอบแทนเดือนละ 7,000 ล้านบาท หรือปีละ 8 หมื่นล้านบาท สมัยนายชวน หลีกภัย และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกฯ มีแนวคิดลดขนาดกองทัพ แต่ปัจจุบันมีการสวนทาง เชื่อว่านโยบายด้านความมั่นคงมาผิดทาง และสิ่งที่นายกฯ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมต้องตอบให้หายข้องใจ คือปัญหางบประมาณรั่วไหล ทั้งเรือเหาะตรวจการณ์ มูลค่า 350 ล้านบาท จอดมากว่า 8ปี ขึ้นบินเพียง 20 เที่ยวแล้วตก โครงการจีที 200 นายกฯ ต้องชี้แจงให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะเจอการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงเดือนพฤศจิากยนแน่นอน ขอเรียนด้วยความเคารพ ว่าบุคคลที่จะเป็นนายกฯ คนต่อไปคือ ผบ.ทบ.แต่วันที่ผบ.ทบ.พูดเรื่องการแบ่งฝ่าย ถือว่าเป็นสิ่งที่แย่ แต่นายกฯ ให้ท้ายว่าดี ดังนั้น จะปล่อยให้ใช้งบประมาณสุร่ยสุร่ายไม่ได้ ไม่ต้องซื้ออาวุธ แต่ควรเอาเงินดูแลเด็ก ให้ประชาชน โรงพยาบาล ดีกว่า

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image