เสธ.แมว เย้ย รบ.เจอโรครุมเร้า การเมือง–ศก.สุดวิกฤต ชี้หนทางรักษา ต้องเอาผู้นำคนนี้ต้องออกไป
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าสถานการณ์ของประเทศขณะนี้มีแต่โรครุมเร้าจนยากที่จะเยียวยาแล้ว เหตุจากปัจจัยภายนอกก็เพิ่งโดนสหรัฐอเมริกาประกาศตัดสิทธิพิเศษภาษีศุลกากรการค้า(GSP)เกือบ 4หมื่นล้านบาท ส่วนปัจจัยภายในก็คืองบประมาณปี 63 มีความล่าช้า ปัญหาเหล่านี้ล้วนมาจากความไร้ฝีมือของรัฐบาลสืบทอดอำนาจ เห็นได้จากไม่มีฝีมือแก้ไขเศรษฐกิจมีแต่สร้างภาระหนี้กู้เงินปีละกว่า 5แสนล้านมา 5 ปีติดๆ สาหัสเข้าไปกว่านั้น ปัจจัยทางการเมืองเพื่อให้เชื่อมั่นความเป็นประชาธิปไตยในสายตาของต่างประเทศก็ไม่อาจมีได้ เพราะการได้มาของส.ส.ก็มีแต่ความสับสน ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขของส.ส.พึงมี การใช้สูตรพิสดารคิดคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ล้วนก่อให้เกิดความผันผวนได้ตลอดเวลา แถมกลไกรับผิดชอบการเลือกตั้งก็ไม่สามารถตอบคำถามให้เป็นที่กระจ่างชัดได้ ปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นผลพวงมาจากรัฐธรรมนูญและตัวผู้นำสืบทอดอำนาจเป็นต้นเหตุทั้งสิ้น
พล.ท.ภราดร กล่าวว่า บทสรุปของปัญหาทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายในที่กล่าวมานั้น เป็นผลให้ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจมิอาจเกิดขึ้นได้เลย ดังนั้นทางออกจากวิกฤติของประเทศเหลือหนทางเดียวก่อนที่เศรษฐกิจจะเกิดภาวะเผาจริงในต้นปีหน้า คือต้องเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเพราะแนวทางการแก้ไขปัญหาของประเทศให้สัมฤทธิ์ผลคือ ต้องกระทำตรงกันข้ามกับที่ผู้นำสืบทอดอำนาจปฏิบัติอยู่ ดังนั้น ในเดือนธันวาคมนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านจำต้องดำเนินการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจผู้นำสืบทอดอำนาจ โดยจะสร้างความร่วมมือกับส.ส.ทุกฝ่ายในและนอกสภาฯกับพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยผนึกเป็นพลังล้มคว่ำผู้นำสืบทอดอำนาจให้พ้นจากตำแหน่งออกไปให้ได้ในที่สุดโดยเร็ว มิฉะนั้นแล้วประเทศเราจะไปสู่จุดที่มิอาจเยียวยาได้ซึ่งคงไม่มีผู้ใดอยากที่จะประสบเคราะห์กรรมเช่นนั้น