“ชวน”ชี้ทุกฝ่ายควรร่วมกันคิดแก้รธน. แม้กระทั่งรบ.เพราะทุกฝ่ายเป็นส่วนหนึ่งของประเทศนี้ ไม่ใช่หักด้ามพร้าด้วยเข่า ส่วนจะให้ภาคประชาสังคมร่วมเป็นกมธ.หรือไม่อยู่ที่คณะกรรมาธิการฯพิจารณา
เมื่อวันที่ 29 ต.ค. เวลา 11.50 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ภาคประชาสังคมจะมายื่นเรื่องให้แก้รัฐธรรมนูญ ว่า ตอนนี้มี 2-3 คณะ ไม่ใช่เฉพาะคณะของนายโคทม อารียา ผู้อำนวยศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี ซึ่งยังไม่ได้นัดวันที่จะมาพบตน เพียงแต่เป็นข่าวเท่านั้น แต่กรณีกลุ่มอื่นตนนัดไว้สัปดาห์ก่อน แต่ฝ่ายผู้นัดไม่ว่าง ซึ่งเราก็ยินดีเพราะถือว่าเป็นประโยชน์ แต่ละคนจะได้มารับรู้รับทราบ หากมีอะไรที่เป็นประโยชน์ก็ยินดีให้ความร่วมมือและรับฟัง ซึ่งคิดว่าเมื่อทุกคณะมาพบก็คงมาเล่าความคิดเห็นให้ฟัง แต่ละฝ่ายคงมีความคิดเห็นที่สอดคล้องกันได้ในบางเรื่อง เช่นความคิดเรื่องประชาธิปไตย ก็คงไม่ต่างกันมากนัก ฉะนั้นความคิดเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญก็สามารถทำความเข้าใจกันได้ว่าในสภาฯไปถึงไหนแล้ว เพราะเมื่อเปิดสมัยประชุมมา ญัตติเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะเข้าสู่สภาฯเป็นเรื่องแรก ก็จะได้คุยกันเบื้องต้นว่าขณะนี้เขาพยายามหาทางที่จะวางแนวว่าทำอย่างไรให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้สามารถแก้ได้ ส่วนแก้อะไรนั้นยังไม่พูดถึง
เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างมาอยู่ในระบบของสภาฯเพราะภาคประชาสังคมไปเคลื่อนไหวข้างนอก นายชวนกล่าวว่า รณรงค์ข้างนอกเพื่อให้ความรู้กับประชาชนนั้นไม่เป็นไร แต่ต้องให้ความจริงและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ส่วนที่ว่าโครงสร้างวางไว้คลายกับส.ส.ร.นั้น ตนคิดว่าต้องคุยกัน แม้กระทั้งส.ว. ซึ่งการปรับปรุงรัฐธรรมนูญอาจจะกระทบเขาก็ต้องเชิญส.ว.มาคุยว่าหากจะแก้ไขปรับปรุงจะกระทบเขาจริงหรือไม่ หรือควรจะมีเงื่อนเวลาอย่างไร ดังนั้นคิดว่าทุกฝ่ายควรจะพูดคุยกัน ซึ่งก็คงไม่ง่ายนักแต่ดีกว่าไม่คุยกัน แม้กระทั่งรัฐบาลตนก็เห็นว่าควรจะคุยกัน เพราะทุกฝ่ายก็เป็นส่วนหนึ่งของประเทศนี้เหมือนกัน
ต่อข้อถามว่าหากเป็นเช่นนี้ใครควรที่จะเป็นแม่งานในการนัดหมายทั้งหมดมาพูดคุยกัน ประธานสภาฯ กล่าวว่าต้องรอดูคณะกรรมาธิการที่สภาฯจะตั้งขึ้นมา ซึ่งญัตติที่จะเข้าสภาฯวาระแรกนั้นจะเป็นแนวทางว่าทำอย่างไรถึงจะสามารถกำหนดแนวทางในการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นไปได้ หรือมีประเด็นว่าจะต้องแก้ส.ส.หรือส.ว.อย่างไร
“ผมคิดว่าการคิดอย่างนี้เป็นการคิดในเชิงสร้างสรรค์ แบบไม่หักด้ามพร้าด้วยเข่า เช่นยกเลิกรัฐธรรมนูญไม่เอานั่นเอานี่ ซึ่งไม่ถึงขนาดนั้นแต่โดยบทของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันทำได้ยาก จึงต้องหาทางว่าจะทำอย่างไรให้สามารถเป็นได้”นายชวน กล่าว
เมื่อถามว่าโดยส่วนตัวคิดว่าจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมาพูดถึงมาตรา 256 เพื่อเปิดทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ง่าย นายชวนกล่าวว่า แล้วแต่คณะกรรมาธิการ ฯ จะหารือกัน ส่วนความเป็นไปได้ที่จะให้ภาคประชาชนเช่นนายโคทมเข้ามาเป็นกรรมาธิการด้วยหรือไม่นั้น ก็แต่เขาจะตั้งเพราะกรรมาธิการชุดนี้สามารถตั้งคนนอกได้
