‘หญิงหน่อย’ ชี้หากทุกพรรคมีความจริงใจ-รักษาสัญญาที่ให้ ปชช. สามารถร่วมกันแก้ รธน.ได้

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 พ.ย. ที่ ซ.เสรีไทย 29 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรค พท. เป็นผู้ยื่นญัตติเพื่อบรรจุและพิจารณาในวันที่ 6 พ.ย.นี้ ว่า พรรคจะเข้าไปชี้แจงเหตุผลเพื่อขอการตัดสินใจ และเสนอตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยเลือกตั้งบุคคลผู้มีความเชี่ยวชาญแต่ละวิชาชีพ มาเป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศแก้ไขรัฐธรรมนูญใน ส.ส.ร. ทั้งนี้ วิธีการที่ง่ายที่สุดส่วนตัวเห็นว่าถ้าปลดล็อก มาตรา 256 เพียงมาตราเดียวก็จะสามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ อย่างไรก็ตาม หากเราต้องการขจัดความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรม และการใช้อำนาจรัฐที่ไม่ถูกต้อง กุญแจดอกสำคัญที่จะทำให้เป็นจริงได้คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งทุกพรรคการเมืองต้องร่วมมือกัน และหากมีองค์กรภาคประชาสังคมมารวมกันแก้ก็จะยิ่งดี โดยส่วนตัวคิดว่าสามารถทำงานร่วมกันได้เนื่องจากทิศทางมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ก็ควรทำงานสอดประสานกันเพื่อให้เกิดพลังในการขับเคลื่อน

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าจะมีการตั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มานั่งเป็นประธานคณะกมธ.ศึกษาเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ก็ก็มีสิทธิ เพราะกมธ.วิสามัญสามารถเป็นคนนอกได้

เมื่อถามย้ำว่า แนวทางของพรรค พท.และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะไปด้วยกันได้ใช่หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เราหวังว่า ถ้าเรามีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาจากรัฐธรรมนูญที่ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียม ความเหลื่มล้ำ รวมถึงการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมแบบนี้ ถ้าเห็นตรงกัน จริงใจตรงกัน ก็มีทางเดียวคือ เดินไปปลดล็อกมาตรา 256 ซึ่งตนก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกพรรคที่ได้ให้สัญญากับประชาชน และมองเห็นปัญหาว่ารัฐธรรมนูญเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศร่วมกันและเป็นปัญหาต่อการหยิบยื่นโอกาสให้ประชาชนอย่างทัดเทียมกัน ก็มาร่วมกันแก้ เพราะเรื่องนี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของ แต่เป็นการทำเพื่อประชาชนร่วมกัน

Advertisement

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ระบุว่า ไม่ได้ใช้คำว่าเศรษฐกิจถดถอย แต่เป็นเศรษฐกิจเติบโตช้าลง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจไม่สามารถแก้ได้โดยการใช้คำเลี่ยง และที่ผ่านมานายกฯ ก็ใช้คำให้เกิดความสับสน ตอนตัดจีเอสพีก็บอกเพราะเศรษฐกิจเราโตไว และมักบอกว่าปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาที่นักการเมืองสร้างมาบ้าง หรือเกิดจากเศรษฐกิจโลกบ้าง แต่ไม่เคยยอมรับว่าเรามีปัญหาเศรษฐกิจจริง ดังนั้น ยอมรับไหมว่านโยบาย 5 ปีกว่าที่ผ่านมาของรัฐบาล คสช.ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำสูง และไปอุ้มนายทุนขนาดใหญ่ แต่ประชาชนตัวเล็กๆ ตั้งแต่เกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน และเอสเอ็มอีถูกทอดทิ้ง ไม่ได้รับการสนับสนุน จะเรียกอะไรก็แล้วแต่ สำคัญว่าคุณสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้คนส่วนใหญ่ได้หรือไม่ วันนี้เราไม่เห็นถาพหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ คือ ตัวนายกฯ หยิบยกปัญหาเศรษฐกิจ และระดมกำลังแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เราเรียกร้องให้หัวหน้าเศรษฐกิจ และรัฐบาลลงมานั่งแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพราะจนป่านนี้เรายังไม่เคยได้เห็นภาพนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลที่มีความสามารถจะมีเครื่องมือในการแก้ปัญหาไขปัญหา เช่น ค่าเงินบาทที่แข็งตัวขึ้น 8% ทำให้การส่งออกชะลอตัว โรงงานทยอยปิดตัว และปีหน้าจะมีคนตกงานกว่า 5 แสนคน คนจบใหม่ก็จะหางานทำยาก ซึ่งเรื่องค่าเงินบาทแข็งตัวรัฐบาลสามารถใช้เครื่องมือ อุดหนุนสินค้าที่ต้องใช้อยู่แล้ว การใช้เงินกู้จากต่างประเทศให้เร็วกว่าปกติ

“รัฐบาลชอบบอกว่าทำอะไรไม่ได้ มันเป็นเพราะเศรษฐกิจโลก แล้วอย่างนั้นเราจะมีรัฐบาลไว้ทำไม ที่บอกว่าตัวเลขเศรษฐกิจที่โต 2% แต่มันโตเฉพาะทุนขนาดใหญ่ หรือบางครั้งมันอาจจะลดการเติบโต แต่พวกเขาก็ไม่สะเทือน แต่คนตัวเล็กทั้งประเทศตายหมดแล้ว” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image