เมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.ให้ความเห็นร่างรัฐธรรมนูญกรณีที่นายกรัฐมนตรีมีข้อสรุปตั้งแต่ต้นว่า การแก้ปัญหาของประเทศต้องเป็นไปตามที่ตนเองต้องการเท่านั้น ว่า เป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคลที่ออกเป็นแนวการเมือง ประกอบกับทัศนคติส่วนตัวที่มีต่อ คสช. ซึ่งเนื้อหาเหมือนต้องการชี้นำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับเพียงหัวหน้า คสช. อย่างไรก็ตามความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น และเชื่อว่าสังคมทั่วไปก็ไม่ได้เข้าใจเช่นนั้น ขณะเดียวกันการที่หยิบประเด็นว่านายกฯบอกมีแนวทางไปสู่การเลือกตั้งตามโรดแมปหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติที่เน้นย้ำอำนาจของตัวเองว่าอยู่เหนืออำนาจอธิปไตยของประชาชนนั้น สังคมมองว่าเป็นความพยายามสร้างวาทกรรมชี้นำความรู้สึกสังคมเช่นกัน เพราะในความเป็นจริงไม่มีใครจะมีอำนาจเหนือประชาชน เพราะที่ผ่านมา คสช.และรัฐบาลดำเนินการทุกอย่างในสถานะผู้ดูแลให้บริการประชาชนมาตลอดอยู่แล้ว
พ.อ.วินธัยกล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นที่พูดถึงการโหวตไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้นกินความไปถึงการไม่ยอมรับกระบวนการอำนาจของ คสช.นั้น ขอชี้แจงว่าการร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้เป็นอำนาจใดๆ ของใคร แต่การร่างรัฐธรรมนูญมีองค์กรที่มีหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการโดยตรงอยู่แล้ว อีกทั้งการทำงานนั้นก็มีลักษณะที่เป็นเอกภาพปราศจากการแทรกแซงจากบุคคลหรือองค์กรใด เพราะฉะนั้นไม่ควรนำไปเป็นประเด็นผูกโยงให้สังคมสับสน
“คสช.และรัฐบาลยังคงไม่ก้าวล่วงและหมิ่นความเห็นของประชาชน พร้อมกันนั้นยังพร้อมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเสมอ แต่ความเห็นนั้นควรมีเจตจำนงที่บริสุทธิ์เพื่อคนทั้งประเทศ และต้องไม่มีเรื่องใดหรือผลประโยชน์ใดแอบแฝง โดยเฉพาะเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือพวกพ้องใดพวกพ้องหนึ่ง” พ.อ.วินธัยกล่าว
พ.อ.วินธัยกล่าวต่อว่า อยากให้ข้อคิดถึงการที่มีผู้ออกมาแสดงวาทกรรม หรือพยายามให้ข้อมูลจนอาจทำให้สังคมสับสน จนเกิดความหวาดระแวงในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น จึงอยากให้ใช้ระมัดระวังด้วยในการเสนอข้อมูลด้วย
