เมื่อเวลา 15.00น. วันที่ 3 พฤศจิกายน ที่เวทีปราศรัยใหญ่ พรรคเพื่อไทย อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยกรณีในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 4 ธันวาคมนี้ จะมีวาระสำคัญคือ การพิจารณาญัตติด่วนเรื่องการให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งกมธ.วิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และการใช้อำนาจของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติตามมาตรา 44 ว่าแนวทางพรรคฝ่ายค้าน 7พรรคได้ฟังเสียงของสมาชิกในแต่ละพรรคจะมีจุดยืนว่าการนับคะแนนใหม่ เป็นไปไม่ชอบธรรม ด้วยวิธีการจะส่งผลเสียในอนาคต ทำให้ทุกพรรคมีจุดยืนเดิม เว้นแต่ว่าเมื่อทางฝ่ายค้านไม่ยอมร่วมนับคะแนนด้วยแล้วรัฐบาลจะดำเนินการต่อไปไม่ได้ เชื่อว่าทางฝั่งของรัฐบาลน่าจะมาครบองค์ประชุม ทางฝ่ายค้านจะวอร์กเอาต์ เพื่อรักษาจุดยืน และจะทำให้สภาก็จะต้องหยุด และจะทำให้เกิดผลกระทบกับการประชุมในวาระต่อไป
“โดยจะถามรัฐบาลว่า”ไหวมั้ย”หากระดมพลไม่ได้ มือไม่พอ ไม่สามารถสมานแผลได้ จนทำให้องค์ประชุมไม่ครบ ฝ่ายค้านจะทบทวนอาจจะออกในทำนองช่วยเหลือสักครั้ง หรือไม่ช่วย ยังไม่ได้สรุป หากรัฐบาลยอมจำนนต่อฝ่ายค้านแล้วว่าไปไม่รอด ฝ่ายค้านจะลองทบทวนดู โดยวิธีการนี้ รัฐบาลต้องคิดว่ามันจะสะท้อนว่ารัฐบาลอ่อนแอถึงที่สุดแล้ว จะไปไม่รอด ถ้าหากพรุ่งนี้รัฐบาลยังระดมส.ส.ให้ครบองค์ประชุมไม่ได้อีก จะถือว่ารัฐบาลถึงจุดจบ เป็นเรื่องที่อธิบายเสถียรภาพตัวเองไม่ได้”นายสุทินกล่าว
นายสุทิน ยังกล่าวอีกว่า ส่วนการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ จะเป็นตัวชี้วัดว่า ความศรัธาของรัฐบาล จะมองได้จากการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า ถ้าหากพรรคเพื่อไทยชนะ จะเป็นตัวชี้ว่ารัฐบาลไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน แต่หากรัฐบาลชนะ ก็คิดได้ว่าชาวบ้านนิยมรัฐบาล ส่วนกรณีมีพรรคร่วมฝ่ายค้านลงชิงเก้าอี้ ส.ส.เขต 7 ด้วยนั้น มองว่าก็ไม่ได้มีอะไรที่ขัด แต่พรรคเสรีรวมไทยถือว่าเป็นพรรคใหม่ที่อยากจะลองทดสอบดู ก็ไม่ว่ากัน เพราะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคะแนนของพรรค ส่วนกรณีที่ นายธนิก มาสีพิทักษ์ จะขาดคุณสมบัติในการรับเลือกตั้งนั้น ฝ่ายกฏหมายของทางพรรคดูชัดเจนแล้ว และทางพรรคได้ปรึกษา กกต. โดยได้ดำเนินการตามที่ กกต.แนะนำทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเรื่องคุณสมบัติ ของนายธนิก มาสีพิทักษ์ ไม่มีปัญหาแน่นอน
