“อนุฯงบ ครุภัณฑ์ฯ “ปรับลดงบไปแล้วเกือบ 9 พันล้าน แขวนงบซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ เหตุกองทัพเรือวางแผนตั้งงบผูกพันถึง 7 ปี พร้อมตัดทิ้งงบรถดับเพลิงบันได ของปภ.
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 6 ธันวาคม ที่รัฐสภา น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ และ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะอนุกรรมาธิการคณะกรรมาธิการครุภัณฑ์ ที่ดิน สิ่งก่อสร้างและรัฐวิสาหกิจ ในคณะกรรมาธิการวิสามัญร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 63 แถลงถึงความคืบหน้าผลการพิจารณาโดย น.ส.กุลวลี กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาปรับลดงบประมาณในหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงวัฒนธรรม 5 หน่วยงาน กระทรวงกลาโหม 5 หน่วยงาน โดยเฉพาะกองทัพบก มีการปรับลดโครงการงบผูกพันใหม่ ปรับลดรายการรถดับเพลิง และปรับลดงบกระสุน ส่วนกระทรวงยุติธรรมที่ยังคงเหลืองบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ทางอนุกรรมาธิการฯ จะมีการพิจารณาในวันที่ 9 ธ.ค.นี้
น.ส.กุลวลี กล่าวต่อว่า ในส่วนงบของกระทรวงมหาดไทย ทางอนุกรรมาธิการฯ ได้ปรับลดงบประมาณกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นจำนวน 335,700,000 บาท ส่วนราชการสังกัดสำนักนายกฯ โดยเฉพาะกรมประชาสัมพันธ์ ได้มีการปรับลด เป็นจำนวน 209,275,000 บาท และยังได้มีการพิจารณาปรับลดงบของส่วนราชการที่ไม่สังกัดสำนักนายก กระทรวงหรือทบวง และหน่วยงานภายใต้การควบคุมของนายกรัฐมนตรี 6 หน่วยงาน และองค์กรอัยการ ทั้งนี้รวมยอดปรับลดงบประมาณจากหน่วยงานดังกล่าวข้างต้น เป็นจำนวนทั้งสิ้น 2,791,996,900 บาท และสรุปยอดปรับลดงบประมาณรวมทั้งหมด 8,896,253,100 บาท
ด้าน นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดที่ทางอนุกรรมาธิการฯ ได้มีการปรับลดสำคัญๆ เช่น กองทัพเรือ ที่มีโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำใหม่ 2 ลำ ลำละ 11,250 ล้านบาท เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 22,500 บาท นั้น ได้มีการตั้งงบประมาณผูกพันตั้งแต่ปี 2563 – 2569 ทางอนุกรรมาธิการฯ ได้ขอแขวนงบดังกล่าวไว้ก่อน ส่วนงบของกระทรวงมหาดไทย ในส่วนกรมการปกครอง ได้มีการตัดทิ้งงบประมาณในการจัดซื้อระบบสื่อสารวิทยุเฉพาะกิจ จำนวน 794 ล้านบาท เพราะปัจจุบันไม่มีความจำเป็น และตัดทิ้งงบในการจัดซื้อรถดับเพลิงบันได ขนาดความสูง 90 เมตร ราคาคันละ 170 ล้านบาท จำนวน 2 คัน รวมเป็นเงิน 340 ล้านบาท ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และยังตั้งข้อสังเกตถึงการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์เพิ่มอีก 2 ลำ ราคาลำละ 931
ล้านบาท รวมเป็นเงิน 1,862 ล้านบาท และได้ตัดทิ้งงบของกรมประชาสัมพันธ์ ที่ได้ตั้งงบขอซื้อรถถ่ายทอดสอด หรือรถโอบีเพิ่มอีก 5 คัน ราคาคันละ 42 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 210 ล้านบาท เพราะยังไม่มีความจำเป็นและใบเสนอราคาไม่ถูกต้อง