บิ๊กต๊อก ลั่น มีวิธีจัดการธัมมชโย ขอให้ใจเย็นๆ เผย ขอ พศ.ช่วยแก้ปัญหา วอน มาตรการสังคมช่วยเร่งดำเนินคดี
เวลา 14.00 น. วันที่ 21 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงปัญหาการเอาผิดพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่า รัฐบาลมีทางออกอยู่แล้ว ขอให้ใจเย็นๆ ส่วนกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมสอบข้อเท็จจริง หลังจากที่นายบุญชัย เบญจรงคกุล เจ้าสัวหมื่นล้าน เชิญชวนลูกศิษย์วัดพระธรรมกายให้ออกมาปกป้องพระธัมมชโยนั้น ดีเอสไอจะดูว่าเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายหรือไม่ เชื่อว่าเรื่องดังกล่าว สังคมมีความเข้าใจ แต่เรื่องของกฎหมายต้องดูอีกมุมหนึ่งว่ามีหลักฐานครบถ้วนที่ชี้ชัดว่าสนับสนุนจริงหรือไม่ แต่เชื่อว่าตามพฤติกรรมคนในสังคมและจากสื่อมวลชนได้มีการพูดไว้มากแล้ว และคิดว่าพฤติกรรมต่างๆ ส่อเจตนาทั้งหมด ซึ่งโดยส่วนตัวไม่อยากต่อล้อต่อเถียงอะไรมาก
“ผมคิดว่าสังคมก็คิดแบบนี้ เราไม่ต้องการให้มีกฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย ไม่ต้องการให้หลักการบังคับใช้กฎหมายมีโดยไม่เท่าเทียมกัน และดีเอสไอพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ให้เกิดปัญหามากมาย และขอให้เข้าใจเจ้าหน้าที่ และเรื่องนี้ต้องทำให้เรียบร้อยจงได้ ผมจะพยายาม” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว
เมื่อถามว่าขณะนี้มีการปลุกระดมโดยใช้คำพูดของเจ้าสัวบุญชัย พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า สื่อต้องช่วยสร้างความรับรู้ ความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งดีเอสไอได้อธิบายแล้วว่า มีความจำเป็นต้องหาคนผิด ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเสียหาย และคาดว่าในเร็วๆ นี้จะมีการพิจารณา 2-3 คดีที่เกี่ยวข้อง ส่วนการตรวจสอบทรัพย์สินนั้นผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ป.ป.ง. และดีเอสไอ ได้มีการหารือกันแล้ว และยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้รังแกใคร ไม่ได้เลือกปฎิบัติ อย่างไรก็ตาม คดีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมี 13 คดี และตอนนี้ได้ทยอยเดินหน้ากระบวนการตามขั้นตอน และต้องเข้าใจว่าคดีนี้มีมานานแล้ว ทั้งนี้คดีดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมากตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
เมื่อถามว่าในคดีดังกล่าวทางคณะสงฆ์ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ดีหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ได้พูดคุยกับผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)โดยขอความร่วมมือให้ช่วยลงมาดูแล ซึ่งไม่ทราบว่าจะเป็นทางออกที่ดีหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ได้ทำ เพราะระบบราชการไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้วยตัวของมันเองได้ ระบบราชการอย่างเดียวไม่พอ ต้องพึ่งพากระแสสังคมด้วย เมื่อไรที่มีความล่าช้า มาตรการทางสังคมจะเป็นผู้ลงโทษคนที่ทำอะไรมิชอบ ดังนั้นสังคมจึงต้องออกมาช่วยกัน
“ในตัวคดีนี้ไม่ได้ลำบาก การฟอกเงิน ยักยอกเงินไม่ได้ซับซ้อน แต่ปัญหาอยู่ที่การใช้ศรัทธาของคนมาเป็นเครื่องมือ แต่เราจะจัดการเรื่องนี้ให้ได้ มิเช่นนั้นการบังคับใช้กฎหมายจะเสียหาย” พล.อ.ไพบูลย์กล่าวและว่า ส่วนขั้นตอนการออกหมายค้นนั้น ยืนยันว่าเป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้อง เมื่อดีเอสไอส่งเรื่องให้อัยการไปแล้วก็มีอำนาจในการตรวจค้น เพราะอัยการจะให้พนักงานสอบสวนไปนำตัวธัมมชโยมา นอกจากนี้พนักงานสอบสวนยังมีหมายจับ เรื่องนี้อยู่ที่ดุลพินิจของพนักงานสอบสวนและศาล