‘บิ๊กตู่’ เปลี่ยนทางเดินในทำเนียบ บอก อยากใส่ผ้ากันเปื้อนให้สัมภาษณ์สื่อ ‘ขอช่วยพูดรัฐบาลทำสิ่งดีมีเยอะ’

‘บิ๊กตู่’ เปลี่ยนเส้นทางเดินในทำเนียบฯ ก่อนประชุม ครม. บอกวันนี้อารมณ์ดี อยากใส่ผ้ากันเปื้อนให้สัมภาษณ์สื่อ ‘ขอช่วยพูดรัฐบาลทำสิ่งดีมีเยอะ’ หลังโชว์เติมน้ำมัน B 10 ผลิตจากปาล์ม ปลุกใช้พืชพลังงาน แก้ปัญหาราคา ลดค่าฝุ่น PM 2.5 โว นโยบายนายกฯเอง วอน ปีใหม่ ดื่มไม่ขับ

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 24 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เยี่ยมชมบูธกิจกรรมต่างๆ ที่หน่วยงานราชการได้นำมาเพื่อประชาสัมพันธ์และรณรงค์ และเป็นที่น่าสังเกตว่า วันเดียวกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้เปลี่ยนเส้นทางเดินจากปกติที่เมื่อเดินลงมาจากหน้าตึกไทยคู่ฟ้าแล้วจะเดินผ่านศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตาศาลยาย ต้นอโศกน้ำ เพื่อเข้ามายังบริเวณหน้าตึกบัญชาการ 1 แต่วันเดียวกันได้เปลี่ยนเส้นทางโดยเมื่อลงจากตึกไทยคู่ฟ้า ได้เดินอ้อมมาทางด้านขวา ชมต้นไม้นานาพรรณ และผ่านห้องปฏิบัติงานสื่อมวลชน 1 หรือรังนกกระจอกเก่า เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมถึงเปลี่ยนเส้นทางเดิน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยสีหน้าฝืนๆ ชนิดไม่เต็มใจว่า “มันร่ม คิดไม่ออกหรือ”

จากนั้น นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง พม. นำเสนอ “ของขวัญปีใหม่ พม. สำหรับประชาชน ปี 2563” ให้กับนายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์ 4 กิจกรรม สาธารณประโยชน์แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ทั้งเด็ก ครอบครัว ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้มีรายได้น้อย เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ประกอบด้วย 1.คลอดปั๊บ..รับ 600 บาทต่อเดือน ถึง 6 ขวบ 2.บ้านเช่าราคาพิเศษ 10,000 หน่วยทั่วไทย ดำเนินการโดยการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ซึ่งเป็นการจัดให้มีบ้านเช่าราคาพิเศษ เริ่มต้นที่ 999 บาท/เดือน และเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของ กคช. ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม-30 มิถุนายน 3.บ้านพอเพียงชนบท 11,500 ครัวเรือน และ 4. ปรับปรุงห้องน้ำ 10,000 แห่ง

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเปิดตัวโครงการ “Thailand Street Food Festival 2020” เพื่อเป็นวิธีโปรโมตการท่องเที่ยวด้านอาหารไทย มีสตรีตฟู้ดเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อน โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ทำผัดไทยร่วมกับเชฟชุมพล แจ้งไพร โดยช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ใครควรจะลดความหวานลงนิด ให้รสชาติกลมกล่อม ซึ่งสมัยเด็กๆ ตอนอยู่บ้านเดียวกับพี่ทั้งสอง (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา) ก็มักทำกับข้าวกินเอง ซึ่งเมนูผัดไทยก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่เคยทำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการทำเมนูผัดไทยเส้นจันท์เสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ชิมผัดไทยโชว์กลุ่มช่างภาพสื่อมวลชน โดยหันมามองพร้อมส่งยิ้มให้ พร้อมบอกว่า “วันนี้อารมณ์ดี” ก่อนตักผัดไทยใส่จานเพื่อโชว์ก่อนจะให้ตักใส่ปิ่นโต พร้อมระบุว่า ต้องช่วยกันรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกและนำภาชนะอื่นอย่างเช่นปิ่นโตมาใส่อาหารก็จะช่วยลดปัญหาโลกร้อนได้

นอกจากนี้ ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังถอดผ้ากันเปื้อนเพื่อส่งคืน ได้กล่าวติดตลกว่า “ความจริงผ้ากันเปื้อนอยากใส่ตอนให้สัมภาษณ์ เพราะชอบเปื้อนไง ชอบพาดพิง” พร้อมหันมองมายังกลุ่มสื่อมวลชนที่ตั้งฉายาให้ก่อนจะส่งยิ้ม

ต่อมา นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นำคณะเข้าพบนายกฯเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล หมุนเร็ว B 10 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์ม นายกฯได้สาธิตเติมน้ำมันดีเซล หมุนเร็ว B 10 กับรถกระบะ ขณะที่นายกฯกล่าวว่า เราต้องสร้างการผลิต การแปรรูปและทำการตลาด ซึ่งทำ 3 อย่างนี้ราคาปาล์มจะขึ้น อีกทั้งยังมีเรื่องการทำรถไฟฟ้า สถานีเติมสำหรับรถไฟฟ้าอีก หลายคนบ่นรัฐบาลไม่เอาจริงเอาจัง ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ในการจัดตั้งสถานี อย่าลืมเติมกันนะ ซึ่งจะช่วยเรื่องราคาปาล์มด้วย

“นี่คือนโยบายของผมเองว่าจะทำอย่างไรจะนำมาใช้เป็นพืชพลังงาน บริโภคอย่างเดียวไม่พอแล้ว และช่วยลดค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เพราะฝุ่นมาจากหลายอย่างด้วยกัน ที่หนักที่สุดคือการจราจร ซึ่งวันหน้าเราดำเนินการไปสู่รถไฟฟ้า ซึ่งเราเลิกทั้งหมดไม่ได้ แต่ลดสัดส่วนลงมา และปีหน้าจะมีพลังงานเอทานอลจากอ้อยและมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาของอ้อยและมันสำปะหลังอย่างยั่งยืน และทำโรงงานไฟฟ้าชุมชนที่เป็นของประชาชนโดยตรง ในพื้นที่ของตัวเองเพื่อเป็นทางเลือก ทั้งหมดนี้ รัฐมนตรีทุกคนช่วยกันดำเนินการ ส่วนนายกฯคือผู้บริหารนโยบาย แก้มาหลายอย่างแล้ว หากไปแก้ปลายทางอย่างเดียวแก้ไม่ได้หรอกก็กลับมาที่เก่า ขอให้ช่วยกันพูดบ้างว่าสิ่งที่รัฐบาลทำดีๆ ก็มีเยอะไป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวได้กล่าวกับนายกฯว่า ดูนายกฯอารมณ์ดี โดยนายกฯกล่าวว่า ทำไมจะให้อารมณ์เสียหรืออย่างไร

ต่อมา นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) นำคณะผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม และศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) เข้าพบ และเยี่ยมชมนิทรรศการ โครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ 9 เส้นทาง เดินทางตามรอยพระราชา และเสนอแอพพลิเคชั่น Moral Touch ผ่านโทรศัพท์มือถือที่รวบรวมองค์ความรู้ด้านการส่งเสริมคุณธรรมกว่า 200 องค์ความรู้ พร้อมกับมอบหนังสือศาสตร์พระราชาให้แก่นายกฯ และคณะรัฐมนตรี เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการเผยแพร่สู่สาธารณะ โดยนายอิทธิพลกล่าวว่า วัตถุประสงค์โครงการนี้เพื่อพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ให้มีความพร้อมในการส่งเสริมให้เยาวชนเข้าใจและเข้าถึง “ศาสตร์ของพระราชา” ผ่านการจัดกิจกรรมเสมือนห้องเรียนธรรมชาติสำหรับเยาวชนจากประสบการณ์จริง และพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ศูนย์เรียนรู้เป็นวิทยากรกระบวนการ ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบสร้างสรรค์ตามรอยพระบาท โดยใช้หนังสือเดินทาง “ตามรอยพระราชา” เป็นคู่มือ พ่อแม่ ครู อาจารย์ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม

โดยนายกฯได้ร่วมกิจกรรมถอดบทเรียน ผ่านเกมกระดานสื่อการเรียนรู้ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนระดับสากล พร้อมกล่าวว่า โรงเรียนต้องอย่าสอนตามตำราอย่างเดียว แต่ต้องบอกเขาวัตถุประสงค์ของเราคืออะไร เป้าหมายที่เราต้องการจากเขาคืออะไร ไม่อย่างนั้นทุกคนก็เรียนแบบท่องจำแต่ไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่ออะไร ทั้งนี้โรงเรียนต้องใส่เรื่องจิตสำนึก จริยธรรม คุณธรรม การเป็นคนดีและคนเก่งใส่เข้าไปด้วยเพราะตอนนี้มันน้อยไป อีกทั้งวันนี้ต้องสู้กับเทคโนโลยี การใช้จ่ายที่อาจจะเกินตัว ที่จะต้องทำอย่างไรไม่ให้เป็นหนี้ ไม่ใช่พอโตขึ้นมาก็เป็นหนี้แล้ว จะบอกว่ามีความจำเป็นก็ใช่ แต่ก็ต้องมีขีดความสามารถในการชำระหนี้ อย่างเรื่องการใช้สิ่งของก็ไม่ต้องมีให้เหมือนเพื่อน เพราะฐานะเราไม่เท่าเทียม เสรีประชาธิปไตยแบบนี้ก็ต้องเป็นแบบนี้

ขณะที่นายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรม “ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย” โดยมีเด็กนักเรียนชายมาร่วมร้องเพลงแร็พโชว์ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ถามเด็กพร้อมกับเอามือป้องปากว่า ไม่ทำบีทบ๊อกซ์หรือ เห็นเอามือปิดหน้าก็นึกว่าทำบีทบ๊อกซ์ ก่อนจะออกเสียงบีทบ๊อกซ์ร่วมกับเด็กๆ ก่อน กล่าวว่า ขอให้เอาไปช่วยเผยแพร่ เราไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว เรามีมาตรการทุกอันแล้ว ก็อยู่ที่ทุกคน ถ้าไม่ดื่มเหล้าขับรถ มันลดอุบัติเหตุไปได้ 100% แล้ว ที่เหลืออาจเป็นอุบัติจากสาเหตุอื่น แต่เมาเหล้ามันสุดยอด ขับไม่มีสติ ดังนั้น ต้องดื่มไม่ขับกลับบ้านปลอดภัย เราต้องยึดหลัก 3 ร. รักตัวเอง รักครอบครัว และรักคนอื่นให้เท่าๆ กัน แล้วจะรู้ว่าเราควรต้องทำตัวอย่างไรในช่วงเทศกาลปีใหม่และปีต่อๆ ไป อย่าใจร้อน เคารพวินัยจราจร รถติดก็เป็นเรื่องธรรมดาที่มันจะต้องติด เพราะรถมันเยอะ เป็นธรรมดาในช่วงปีใหม่ ต้องทำใจ ถ้าใจร้อนไม่เอื้ออารีย์ต่อกัน ก็มีปัญหาเดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีก ตามมาด้วยความเสียหายหลายๆ เรื่อง ขอให้ลดภาระเจ้าหน้าที่เขาบ้าง ปีใหม่ก็ไม่ได้กลับบ้าน อยู่ตามถนนหนทางเยอะแยะไปหมด ต้องให้กำลังใจเขา

ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้แซวนักแสดงโฆษณาชายของ สสส.ที่มักรับบทเป็นคนเมาว่า ฉันเห็นเธอในโทรทัศน์ ฉันว่าเธอนี่เมาจริงๆ นะ

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลมันก็เป็นธรรมดา มีบ้างอะไรบ้างนิดหน่อย แต่ไม่ใช่ตอนขับรถ ถ้ารู้ว่าตัวเองต้องขับรถอย่าไปดื่มเลย ไม่ดีหรอก อันตราย ทุกคนมีคนที่รออยู่ที่บ้านทั้งสิ้น ไม่ใช่แค่ลูกเรา ต้องรับผิดชอบสังคมด้วย เพราะเป็นเรื่องของคนทุกคนที่ต้องช่วยกันสร้างดีกว่า

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทักทายกับเจ้าหน้าที่ สสส.ซึ่งเป็นมุสลิม พร้อมกับระบุถึงกรณีที่มีข่าวปลอมว่าตนและครอบครัวนับถือศาสนาอิสลาม ว่า อย่าไปฟังคำยุแยงตะแคงรั่ว ตนไม่ไปทะเลาะกับใครทั้งนั้น

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่