ครม. เห็นชอบ รายงานความคืบหน้าแผนปฏิรูปประเทศ ของสภาพัฒน์ จ่อเสนอสภาฯ ต่อไป
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 24 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้มีเรื่องเพื่อทราบจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เข้ามาเป็นรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนปฏิรูปประเทศ ซึ่งต้องปฏิบัติตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญ 2560 และมาตรา 33 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศ ที่บัญญัติให้ครม. ต้องแจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศต่อรัฐสภาทุก 3 เดือน ครั้งนี้เป็นช่วงเวลาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2662 โดยสรุปความคืบหน้าที่มีทั้งหมด 5 ด้าน ประกอบด้วย 1.ด้านกฎหมายที่มีการจัดทำอนุบัญญัติภายใต้พระราชบัญญัติหลักเกณฑ์ และการจัดทำร่างกฎหมายประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายปี 2562 2.ด้านกระบวนการยุติธรรม ที่มีการจัดหาทนายความเพื่อประจำทุกสถานีตำรวจ โดยสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 3.ด้านเศรษฐกิจ มีแนทางการดึงแรงงานนอกระบบ เข้ามาเป็นแรงงานในระบบ รวมถึงเกษตรกร ให้เข้ามาสู่ระบบประกันสังคมเพิ่มมากขึ้น ที่ดำเนินการโดยกระทรวงแรงงาน 4.ด้านพลังงาน มีการดำเนินงานโครงการประหยัดพลังงาน โดยกระทรวงแรงงาน และมีการจัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพหม้อน้ำระบบความร้อน มีการเพิ่มประสิทธิภาพระบบไอน้ำสำหรับโรงงานไฟฟ้าชีวมวล และ 5.ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ดำเนินการยกระดับและประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ
นางนฤมล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีการรายงานถึงกิจกรรมภายใต้แผนปฏิรูปประเทศที่แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.กิจกรรมที่ดำเนินการแล้วเสร็จมีทั้งหมด 196 กิจกรรม หรือนับเป็นร้อยละ 16 2.กิจกรรมที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผน 759 กิจกรรม หรือร้อยละ 62 3.กิจกรรมที่อยู่ระหว่างการดำเนินการแต่ล่าช้าไปกว่าแผน 237 กิจกรรม หรือร้อยละ 19 4.กิจกรรมที่ต้องปรับปรุงให้สอดคล้องกับยุธศาตร์ชาติ มี 37 กิจกรรม หรือร้อยละ 3
นอกจากนี้ยังมีการรายงานกฎหมายที่ภายใต้แผนการปฏิรปประเทศ จำนวน 216 ฉบับ ว่ามีความคืบหน้าในการออกกฎหมาย ซึ่งเสร็จสิ้นแล้ว 48 ฉบับ เช่น พ.ร.บ.เจ้าพนักงานตำรวจศาล พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพระธรรมนูญศาลยุติธรรม เป็นต้น ซึ่งจากนี้ไปจะเข้าสู่ขั้นตอนเสนอต่อรัฐสภา
