เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่า กทม. โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า“น้ำมันลดราคาเพราะเล่นกลล้วงจากกระเป๋าประชาชน!?” รมว.สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.กระทรวงพลังงานประกาศลดราคาน้ำมันทุกชนิดลง ลิตรละ 1 บาท ตั้งแต่วันนี้ 26 ธันวาคม 2562 – 10 มกราคม 2563 เอาใจประชาชนช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่
ก่อนลดราคา ปั๊มน้ำมันได้ขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันแต่ละชนิด 20, 40, 50 สต./ลิตร เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2562 เก็บกำไรตุนไว้ก่อน 2 วัน ก็ยังดี !?!
ผ่านไปแค่ 1 วัน วันที่ 25 ธันวาคม 2562 รมว.สนธิรัตน์ ประกาศลดราคาน้ำมันทุกชนิดลง 1 บาทต่อลิตร ในวันที่ 26 ธันวาคม แต่น้ำมันที่ลดราคา มาจากการล้วงเงินกองทุนน้ำมันมาชดเชยเพิ่ม 1 บาท นั่นก็คือล้วงจากกระเป๋าของประชาชนมาจ่ายนั่นเอง
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2562 “คณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรม” ส่วนที่เป็นตัวแทนภาคประชาชนที่รมว.สนธิรัตน์ตั้งขึ้นเพื่อพิจารณาโครงสร้างราคาน้ำมัน พบว่ามีการเก็บค่าปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเกินไปลิตรละ47สตางค์ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2562 โดยที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)ไม่ได้พิจารณาควบคุมให้รอบคอบ
เนื่องจากในอดีตน้ำมันเบนซินสิงคโปร์เป็นมาตรฐานยูโร3 ส่วนน้ำมันของไทยเป็นยูโร4 จึงมีการบวกค่าปรับปรุงคุณภาพ 47 ส.ต./ลิตรในเนื้อน้ำมัน แต่เดือนกรกฎาคม 2562 เป็นต้นมา สิงคโปร์ได้ปรับมาตราฐานน้ำมันเบนซินเป็นยูโร4 แล้ว จึงต้องตัดค่าพรีเมี่ยมส่วนนี้ออกไป แต่ผ่านไปแล้ว5เดือน กบง.ก็ไม่ได้รับรู้ความเปลี่ยนแปลงนี้ จึงไม่ได้สั่งให้ตัดค่าปรับปรุงนี้ออกไป ทำให้โรงกลั่นได้กำไรเกินไปวันละประมาณ 15 ล้านบาท แต่จนถึงวันนี้กบง.ก็ยังไม่มีการประชุมพิจารณาเรื่องนี้ จึงปล่อยให้โรงกลั่นเก็บเงินจากประชาชนเกินไปทุกวัน วันละ 15 ล้านบาท ต่อไป
เมื่อรมว.สนธิรัตน์ ประกาศลดราคาน้ำมัน ก็ไม่ได้มาจากการสั่งให้โรงกลั่นยุติเก็บค่าปรับปรุงคุณภาพเกิน 47 ส.ต./ลิตรออกไป แต่กลับให้เอากองทุนน้ำมันมาชดเชย ซึ่งก็คือเงินที่ล้วงจากกระเป๋าประชาชนอีกนั่นเอง
รัฐบาลได้หน้า ลดราคาน้ำมันจากเงินของประชาชน โดยปล่อยให้โรงกลั่นเอาเปรียบผู้ใช้น้ำมันเก็บเงินเกินไปเรื่อยๆ ใช่หรือไม่? ผู้ทรงคุณวุฒิบางท่านกล่าวว่าเงินที่เก็บเกินจะไม่คืนให้ ไม่ทราบทีมงานท่านรัฐมนตรีได้รายงานเรื่องนี้ให้ท่านสนธิรัตน์ทราบหรือยัง!?
การปล่อยให้โรงกลั่นเก็บเงินเกินไปเรื่อยๆ จนกว่า กบง.จะมีคำสั่งให้ตัดออก (ซึ่งไม่รู้เมื่อไร?)ยิ่งช้าไปแต่ละวัน ประชาชนก็ยิ่งเสียประโยชน์ และถ้าเก็บเกินแล้วไม่ต้องคืน จะมีความเป็นธรรมต่อผู้ใช้น้ำมันหรือไม่ ??!!
