แอมเนสตี้เรียกร้องทางการไทย ยกเลิกดำเนินคดีสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน และนักกิจกรรมที่จัด‘แฟลชม็อบ’

วันที่ 26 ธ.ค. รายงานข่าวว่าแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้เรียกร้องให้ยุติการคุกคามด้วยกระบวนการกฎหมายต่อสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และนักเคลื่อนไหวในประเทศไทย ที่เริ่มดำเนินคดีอาญาครั้งใหม่ต่อสมาชิกพรรคอนาคตใหม่และนักเคลื่อนไหวเนื่องจากการชุมนุมประท้วงอย่างสงบ

ข้อหาเป็นผลมาจากการที่ประชาชนชาวไทยหลายหมื่นคน ร่วมชุมนุมวันที่ 14 ธ.ค.62 เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง”แฟลชม็อบ”ที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น และจังหวัดในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของไทย การประท้วงอย่างสงบเกิดขึ้นหลังจากคณะกรรมการกการเลือกตั้งประกาศที่จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเพื่อยุบพรรคอนาคตใหม่

“ทางการไทยได้แจ้งข้อหาหลายคดี ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นต่อแกนนำระดับสูงของพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคฝ่ายค้านใหม่ที่ชนะการเลือกตั้งได้ ส.ส. 81 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 62 แต่ก่อนและหลังการเลือกตั้ง ทางการได้เริ่มกระบวนการที่จะยุบพรรคอนาคตใหม่ และตัดสิทธินายธนาธรในฐานะรัฐสภา

หนังสือเรียกร้องในวันที่มีการชุมนุมประท้วง ตำรวจแจ้งข้อหาต่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ฐานที่ใช้เครื่องขยายเสียงในที่สาธารณะอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ

Advertisement

“วันจันทร์ที่ 16 ธ.ค. นายสนธิญา สวัสดี ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐที่เป็นพรรคเสียงข้างมาก ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ 4 คน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวหาว่าจำเลยไม่ได้แจ้งการชุมนุมสาธารณะต่อเจ้าพนักงาน”

รายงานข่าวว่าจัดชุมนุมสาธารณะภายในระยะ 150 เมตร จากเขตพระราชฐาน และจัดชุมนุมขวางทางเข้าออกที่สาธารณะ ข้อหายุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ว่าด้วยความมั่นคงของรัฐ และการละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หากศาลตัดสินว่ามีความผิด สมาชิกพรรคเหล่านี้อาจได้รับโทษจำคุกสูงสุดไม่เกินเจ็ดปี

ที่ จ.เชียงใหม่ แอดมินของเฟซบุ๊กเพจ สมัชชาเสรีแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่สนับสนุนการประท้วง ถูกดำเนินคดีเนื่องจากไม่แจ้งการชุมนุมสาธารณะล่วงหน้า 24 ชั่วโมง ตามข้อกำหนดในพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และที่ผ่านมาทางการมักนำมาตรานี้มาใช้เพื่อแทรกแซง และขัดขวางการชุมนุมทั่วประเทศไทย นับแต่รัฐบาลทหารประกาศใช้พระราชบัญญัตินี้ตั้งแต่ปี 58

Advertisement

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเรียกร้องทางการไทย ให้ยุติการฟ้องคดีตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ ซึ่งเป็นการจำกัดจนเกินขอบเขตต่อสิทธิในการชุมนุมอย่างสงบ และยุติการใช้มาตรา 116 หรือข้อหายุยงปลุกปั่น ซึ่งที่ผ่านมามีการใช้อย่างกว้างขวาง เพื่อปิดกั้นการแสดงความเห็นต่างอย่างสงบของนักเคลื่อนไหว นักปกป้องสิทธิมนุษยชน นักข่าว และนักกฎหมาย

“ควรยกเลิกข้อบทเหล่านี้ หรือแก้ไขเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับพันธกรณีและพันธกิจด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศของไทย ทางการไทยต้องเคารพ คุ้มครอง ส่งเสริม และปฏิบัติให้เป็นผลอย่างเต็มที่ ซึ่งเสรีภาพในการแสดงออก การชุมนุมอย่างสงบ และการสมาคม”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image