‘วิษณุ’ ย้ำ รบ.มีทางออก ปมพ.ร.บ.งบฯ การันตี งบประจำ-งบลงทุนผูกพันไม่สะดุด

“วิษณุ” ย้ำ รบ.มีทางออก หากศาลรธน.รับวินิจฉัยพ.ร.บ.งบ การันตี งบประจำ-งบลงทุนผูกพันไม่สะดุด

เมื่อวันที่ 29 ม.ค.เวลา 13.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติรับคำร้องของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ขอให้วินิจฉัยว่า ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ชอบหรือไม่ ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมการทางออกเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณไว้อยู่แล้ว ส่วนจะเป็นอย่างไรตนไม่ควรพูด เพราะฝ่ายค้านออกมาเตือนอยู่ว่าไม่ให้พูดชี้นำ และไม่ได้ประเมินหากศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณาจะใช้เวลาเท่าใด แต่เราคิดให้ยาวไว้ก่อน เข้าใจว่าสัปดาห์สำนักงบประมาณจะเสนอมาตรการเตรียมการรองรับบางอย่างเข้ามา แต่เขาต้องรอฟังศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ก่อน เพราะหากศาลสั่งรับเรื่องอาจจะมีอะไรบางอย่างที่แสดงว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาเท่าใด เพื่อให้เขาคิดแนวทาง แต่ตนได้ให้แนวทางกับสำนักงบประมาณและรายงานนายกฯไปแล้วว่า ถ้าศาลรับเรื่องระหว่างการพิจารณาจะนานเท่าไหร่ก็ตาม รัฐบาลเอง ต้องใช้เวลาดังกล่าวให้เป็นประโยชน์ ในการเตรียมการ ซึ่งทางออกมาตรการรองรับเราคิดไว้หลายทาง ซึ่งมากกว่า 3 ทาง แต่ไม่สมควรบอก และไม่ว่าอย่างไรงบประจำของข้าราชการสามารถใช้ได้ เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 141 ระบุหากงบประมาณปีใหม่ออกไม่ทัน ให้ใช้งบประมาณของปีเก่าไปพลางก่อน โดยสำนักงบประมาณจะมีหน้าที่ควบคุมวินัยการเงินการคลัง นายวิษณุกล่าวต่อว่า ส่วนงบลงทุนอะไรที่ผูกพันอยู่ก็สามารถดำเนินการได้ เข้าใจว่างบประมาณลงทุนมีอยู่ 3 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งมีส่วนที่ผูกพันที่อยู่บ้าง ก็สามารถทำได้ แต่จะหามาตรการไม่ให้กระทบกับเอกชน และผู้ประกอบการ โดยนำสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมาคำนึงด้วย เพราะงบประมาณของรัฐจะมีส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ถ้าจะกระทบก็กระทบงบลงทุนของโครงการใหม่เท่านั้น ซึ่งเราจะหามาตรการในส่วนของงบโครงการใหม่จะทำอย่างไร เมื่อถามว่าการกู้เงินจะเป็นทางออกหนึ่งหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณจะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งคนที่เคยเป็นรัฐบาลจะรู้ว่ามีวิธีการอยู่ และทางออกกรณีงบประมาณล่าช้าตามปกติเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ทางออกกรณีงบประมาณล่าช้าด้วยกรณีพิเศษเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะงบประมาณเคยออกมาช้าหลายครั้งแล้ว สิ่งที่รัฐบาลต้องระวังมีอย่างเดียวคือ เรื่องวินัยการเงินการคลัง และที่ตนพูดทั้งหมดคือทางแก้เรื่องงบประมาณ ตนไม่เคยพูดว่าการเสียบบัตรไม่ใช่ปัญหาร้ายแรง อย่างไรก็ตาม แต่ว่าต้องไม่ละเลยเรื่องการตรวจสอบหาผู้กระทำผิดในเรื่องนี้นะ ขณะที่ทุกคนไปเตรียมการต่างๆมากมาย แล้วคนที่ทำผิดทำไมจึงยังลอยนวลอยู่” เมื่อถามย้ำว่าหมายถึงคนที่กระทำผิดเสียบบัตรแทนกันใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ”ฮูเอฟเวอร์ ใครก็ตาม ที่เป็นต้นเหตุที่จะต้องรับผิดชอบ ซึ่งจนถึงขณะนี้เราไม่เคยรู้เลยว่าสภาสอบกันไปแล้วอย่างไร ได้ความอย่างไร และยังต้องสอบจนกระทั่งได้ความซึ่งบางทีอาจจะช้า เห็นหรือไม่จากคดีที่เราชอบอ้างกันเมื่อปี 56-57 ที่เสียบบัตรคนหนึ่งหลายใบ มาถึงวันนี้เราก็ยังไม่ได้ยินข่าวเรื่องการลงโทษ กี่ปีมาแล้วล่ะ นั่นแสดงว่าการสอบอาจจะช้า” เมื่อถามว่าแสดงว่าคนที่เสียบบัตรแทนกันจนเป็นประเด็นทำให้พ.ร.บ. งบประมาณล่าช้า จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า คนเสียบบัตรแทนกันนั้นผิด และแน่นอนว่าเขาต้องรับผิดชอบ ในเมื่อเป็นต้นเหตุ แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าไม่เกิดความเสียหายเขาก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้วต่อการกระทำนั้น และเมื่อเกิดความเสียหายขึ้นต้องเป็นความรับผิดชอบอีกหลายเท่า นายวิษณุกล่าวว่า ขณะเดียวกันต้องเตรียมมาตรการต่อไปด้วยว่าหากเกิดเหตุอย่างนี้ขึ้นในอนาคตอีก ฉะนั้นต้องระวังเดี๋ยวจะเกิดเหตุอย่างนี้กับกฎหมายอื่นอีก เมื่อถามว่า ที่บอกว่าคนผิดจะต้องรับผิดชอบนั้นคืออย่างไร รองนายกฯกล่าวว่า “ รับผิดชอบก็คือรับผิดชอบ สุดจะแจกแจงได้ “ เมื่อถามย้ำว่าจะมีการฟ้องผิดเอาแพ่งด้วยหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่แน่ใจ เมื่อถามว่าแสดงว่าทางสภาจะต้องรีบตรวจสอบและมีคำ วินิจฉัยออกมาโดยเร็ว เพื่อที่จะรู้ว่าใครผิด นายวิษณุกล่าวว่า ”ผมไม่ได้บอกว่าจะต้องรีบมีคำวินิจฉัยแต่สภาจะต้องสอบข้อเท็จจริง และผมกำลัง จะบอกว่าต้องมีการดำเนินคดีเท่านั้น โดยเมื่อมีผลออกมาอย่างไรจะต้องดำเนินการฟ้อง ซึ่งจะเป็นใครฟ้องก็ได้ เช่น ส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ ที่เขามีอำนาจ ไม่ใช่เรื่องยาก ดูจากเคสตัวอย่าง ของคุณนรศรนั้นใครเป็นคนดำเนินการ ” สภาจะต้องดำเนินการสอบให้จบแล้วส่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อไป ซึ่งเรื่องนี้อาจจะต้องฟ้องศาลฎีกาแผนก คดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือจะเป็นคดีอาญาธรรมดา หรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งขณะนี้คุณศรีสุวรรณก็ได้ไปยื่นร้องต่อป.ป.ช. แล้ว นั่นก็เป็นช่องทางหนึ่ง “ เมื่อถามว่าแสดงว่ามีส.ส.เสียบแทนกี่คนคือผู้กระทำผิดทั้งหมดและต้องถูกเอาโทษใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ว่าใครที่เกี่ยวข้อง สมรู้ร่วมคิด วางแผน เมื่อถามว่าแสดงว่าจะมีผลกระทบถึงสมาชิกภาพของส.ส. เหล่านั้นด้วยใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า แอทดิเอ็น นั่นคือจุดหมายปลายทาง ที่จะต้องนำไปสู่อย่างนั้น แต่ในระหว่างที่ยังไม่ถึงขั้นนั้นตนก็ตอบไม่ถูก เพราะไม่ทราบข้อเท็จจริง ตอนนี้เอาสั้นๆ ยังไม่มีเหตุที่จะต้องไปขยายอะไร ตอนนี้ต้องดำเนินการให้ได้ตัวออกมา ซึ่งก็ดีแล้วสำหรับการที่คุณศรีสุวรรณไปยื่น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image