รบ.สั่ง 9 จังหวัดภาคเหนือ ห้ามเผาเด็ดขาดช่วงหน้าร้อน ฝ่าฝืนจับจริง
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันแล้วพรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า จากการติดตามข้อมูลปัจจัยเสี่ยงการเกิดไฟป่ากับ GISDA ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ พบว่า มีจุดความร้อนบริเวณพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่การเกษตร ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตของประชาชน รัฐบาลจึงได้สั่งการให้กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บก.ปภ.ช.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย บูรณาการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดและหน่วยงานในพื้นที่ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อย่างเต็มกำลัง โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นแกนกลางวางแผนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ภายใต้ 4 มาตรการเชิงพื้นที่ 5 มาตรการบริหารจัดการ เน้นมาตรการคุมเข้มการเผาในพื้นที่ พร้อมใช้กลไกระดับพื้นที่ ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนและเกษตรกรถึงผลกระทบจากปัญหาไฟป่าและหมอกควัน รวมถึงสร้างการรับรู้เกี่ยวกับมาตรการ ห้วงเวลาห้ามเผา และกฎหมายห้ามเผา ซึ่งมีบทลงโทษทั้งจำและปรับ โดยขณะนี้ได้ 9 จังหวัดภาคเหนือ ออกประกาศเขตห้ามเผาเด็ดขาดแล้ว 8 จังหวัด ดังนี้ จ.เชียงใหม่ ประกาศเขตห้ามเผาเด็ดขาด ระหว่างวันที่ 10 มกราคม – 30 เมษายน 2563 จ.แพร่ ประกาศห้ามเผาเด็ดขาด ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2563 จ.น่าน ประกาศเขตห้ามเผาเด็ดขาด ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 15 เมษายน 2563 จ.พะเยา ตาก ลำพูน ลำปาง ประกาศเขตห้ามเผาเด็ดขาด ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2563 จ.แม่ฮ่องสอน ประกาศเขตห้ามเผาเด็ดขาด ระหว่างวันที่ 15 มีนาคม – 30 เมษายน 2563 และจ.เชียงราย อยู่ในช่วงเฝ้าระวังติดตามแนวโน้มสถานการณ์ภัย เพื่อวางแนวทางประกาศเขตห้ามเผาเด็ดขาด
นายมณฑล กล่าวว่า บางจังหวัดได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการห้ามเผาแล้ว และขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาทุกรูปแบบและปฏิบัติตามประกาศเขตห้ามเผาอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้บูรณาการป้องกันไฟป่าและแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่อย่างเข้มข้นและรอบด้าน โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย สนับสนุนปฏิบัติการฉีดพ่นละอองน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นและลดปริมาณมลพิษในอากาศ รวมถึงสั่งการเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการออกทำงานร่วมกับชุดเสือไฟของกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปฏิบัติการดับไฟป่าภาคพื้นที่ พร้อมทั้งร่วมกับกองทัพบกจัดส่งอากาศยานดับไฟป่าในพื้นที่ภูเขาสูงที่ยากต่อการเข้าถึง ซึ่งจะประจำการในพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อควบคุมวิกฤติปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด
