‘บิ๊กป้อม’ ถกเคาะขยายเวลา ‘กม.พิเศษ จชต.’ อีก 3 เดือน ครั้งที่ 59 ตามข้อเสนอ ‘กอ.รมน.’

‘บิ๊กป้อม’ ปธ.ประชุม คกก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน จชต. เคาะมติขยายเวลา ‘กม.พิเศษ’ อีก 3 เดือน ครั้งที่ 59 ตามข้อเสนอ ‘กอ.รมน.’

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ห้องประชุมวิจิตรวาทการ ชั้น 3 สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 1/2563 โดยกล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาการขยายระยะเวลา การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ทุกอำเภอในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้(จชต.) ยกเว้นอำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี อำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอสุคิริน อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2563 และสิ้นสุดในวันที่ 19 มิถุนายน 2563 เพื่อเป็นเครื่องมือที่สำคัญต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการป้องกัน และระงับยับยั้งเหตุการณ์ที่อาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ รวมทั้งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่เพื่อให้ประชาชนมีอาชีพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป ที่ประชุมยังให้ความเห็นชอบแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มเติม อาทิ 1.การกำหนดแนวทาง การลงทะเบียนการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ให้มีความเหมาะสมเพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่ 2.การพัฒนาระบบข้อมูลด้านการสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคงในพื้นที่ และ 3.การเร่งรัดบรรจุพนักงานสอบสวนคดีความมั่นคงในพื้นที่ แนวทางดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้สามารถนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยให้สมช.นำมติของ กบฉ. ดังกล่าวเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติต่อไป

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การขยายระยะเวลาในครั้งต่อไป ขอให้ประเมิน สถานการณ์ในพื้นที่ อย่างละเอียดรอบคอบ และคำนึงถึงเหตุผล ความจำเป็น ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถิติการก่อเหตุ จำนวนการสูญเสีย และแนวโน้มสถานการณ์ประกอบกันโดยจะต้องประสานงานร่วมกับ หน่วยงานด้านการข่าว อย่างใกล้ชิดด้วย สำหรับในพื้นที่ 4 อำเภอ จังหวัดสงขลา และพื้นที่ ที่ปรับลดไปแล้ว ขอให้นำมาตรการทางกฎหมายที่มีอยู่มาบังคับใช้ ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การเพิ่มประสิทธิภาพ ด้านการสืบสวนสอบสวนคดี ความมั่นคงในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นรูปธรรม รวมทั้ง ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดกำหนด ตำแหน่ง พนักงานสอบสวนคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามข้อเสนอของตำรวจภูธรภาค 9 โดยเร็ว ภายหลังที่สมช. นำเสนอ นายกฯอนุมัติแล้ว และขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ในการปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็ง ในการเฝ้าระวังและป้องกันมิให้มีการก่อเหตุในพื้นที่ รวมทั้งดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของ ประชาชน ควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่เพื่อให้ประชาชนมีอาชีพ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป

พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า ขอให้กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วยในพื้นที่ จชต. ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในการควบคุมสถานการณ์ และรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อความปลอดภัยของประชาชน รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ด้วยการประเมินสถานการณ์ในพื้นที่อย่างละเอียดรอบคอบ มีมาตรการเชิงรุกด้านการข่าว ประชาชนมีส่วนร่วม และการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นธรรมอย่างจริงจัง ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวชื่นชมพร้อมได้ให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ด้วยความทุ่มเท เสียสละ กล้าหาญ และภาคภูมิใจที่ได้ปฏิบัติภารกิจที่มีความสำคัญยิ่ง และขอให้มีความปลอดภัยทุกนาย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image