‘หมวดเจี๊ยบ’ ถามกองทัพ ทำไมทหารชั้นประทวนไม่ได้สิทธิอยู่บ้านพักต่อเหมือนนายพล

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวแสดงความเห็นหลังกองทัพออกมาชี้แจงเรื่องการให้ที่พักอาศัยอยู่ต่อแก่นายพลที่เกษียณแล้ว ว่าทหารที่เป็นนายสิบกับจ่าไม่ได้ทำประโยชน์ให้บ้านเมืองเลยหรืออย่างไร เหตุใดจึงมีแค่นายพลเท่านั้นที่มีสิทธิอยู่ต่อในบ้านพักของกองทัพได้ ซึ่งนี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของปัญหาความเหลื่อมล้ำในกองทัพที่เป็นชนวนเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดกรณีจ่าคลั่งปล้นปืนไปยิงชาวบ้านก็เพราะเกิดความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ และความเครียดจากเรื่องทำนองนี้

ดังนั้น ถ้าทุกฝ่ายไม่ต้องการให้ความตาย 30 กว่าศพที่โคราชต้องสูญเปล่า ก็ควรถือโอกาสนี้ในการสังคายนากองทัพเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ โดยการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่เหมาะสมที่สุดในเวลานี้ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งต้องโชว์สปิริตด้วยการย้ายออกจากบ้านหลวงทันที เพื่อแสดงให้คนอื่นในกองทัพเห็นเป็นตัวอย่างว่าขนาดท่านเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ก็ยังรู้จักเสียสละให้กับลูกน้อง โดยการย้ายครอบครัวออกจากบ้านพักของทางราชการทันที โดยไม่จำเป็นต้องไปพูดถึงว่าตนเองมีสิทธิหรือไม่ เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องของการมีสิทธิหรือไม่มีสิทธิ แต่เป็นเรื่องของการแสดงสปิริตในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และเป็นศิษย์เก่า จปร. ซึ่งเป็นสถาบันหลักของกองทัพ ทั้งนี้ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนอื่นและเพื่อเป็นการยืนยันหลักการว่ากองทัพมองเห็นคุณค่าของนายพลกับนายสิบเท่ากัน จะได้ไม่มีใครคลั่งออกไปไล่ยิงชาวบ้านเพื่อระบายความแค้นอีก

ซึ่งนี่จึงจะเป็นการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในกองทัพอย่างถูกจุด ไม่ใช่ถือโอกาสไปออกระเบียบอนุญาตให้ผู้บังคับหน่วยทหารสามารถที่จะออกใบอนุญาตให้นักธุรกิจเข้ามาทำธุรกิจหาเงินในกองทัพง่ายขึ้น ซึ่งอาจเปิดช่องให้เกิดการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวได้ง่าย เพราะเคยมีกรณีที่นักธุรกิจหอบเงิน 10-20 ล้านบาท มาให้นายทหารที่มีอำนาจเซ็นอนุมัติสัมปทานให้เช่าเหมาคลื่นรายการวิทยุหรือโทรทัศน์ในการกำกับดูแลของทหาร หรือเหมาสัมปทานเข้ามาทำการค้าในหน่วยทหาร ซึ่งเงินสินบนแบบนี้มันเข้ากระเป๋าผู้มีอำนาจเซ็นอนุมัติโดยตรง ไม่ได้เป็นรายได้กลับคืนให้รัฐอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และตรวจสอบยาก ที่สำคัญ ทหารชั้นผู้น้อยก็ไม่ได้รับประโยชน์จากเงินเหล่านี้ ทำได้แต่มองตาปริบๆ ด้วยความสงสัยว่า รายได้มหาศาลเหล่านี้มันไปเข้ากระเป๋าใครหมด ซึ่งยิ่งเป็นการเพิ่มความเหลื่อมล้ำ ไม่ได้ลดความเหลื่อมล้ำ จึงเป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด และอย่าไปหวังว่าทหารชั้นผู้น้อยจะร้องเรียนปัญหาทุจริตเข้ามาที่กองทัพ เพราะเขากลัวได้รับผลกระทบต่อหน้าที่การงาน เนื่องจากทหารที่โดนร้องเรียนก็ล้วนเป็นผู้มีอิทธิพลและเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกับคณะกรรมการสอบสวนนั่นแหละ จึงคาดหวังกับผลสอบไม่ได้ ดังนั้น ทหารที่มีสติสัมปชัญญะจะไม่ฆ่าตัวตายด้วยการร้องเรียนทุจริตซึ่งจะทำให้ตัวเองเดือดร้อนทีหลัง

กล่าวโดยสรุปคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรเริ่มสร้างการเปลี่ยนแปลงในกองทัพให้เห็นเป็นตัวอย่าง ด้วยการย้ายข้าวของออกจากบ้านพักของทางราชการทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมาไล่ ซึ่งทำได้ไม่ยาก เพียงแต่ต้องใช้จิตสำนึกมากหน่อย และต้องสะกดคำว่าเสียสละให้เป็น โดยขณะนี้คนทั้งสังคมกำลังจับตามองอยู่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ สะกดคำว่าเสียสละเป็นหรือไม่

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image