เปิดรอยร้าว ‘เพื่อไทย-อนาคตใหม่’ ในศึกซักฟอกที่ล่มครั้งแรกในประวัติศาสตร์ กลิ่นตุๆตั้งแต่อภิปรายวันที่ 2

เปิดรอยร้าว “เพื่อไทย” – “อนาคตใหม่” ในศึกซักฟอกที่ล่มครั้งแรกในประวัติศาสตร์ กลิ่นตุๆตั้งแต่อภิปรายวันที่ 2

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ รายงานข่าวจากวง 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ระบุว่า สถานการณ์ความไม่พอใจในการจัดวางคิวการอภิปรายเริ่มมาคุตั้งแต่ช่วงวันที่ 2 ของการอภิปราย ซึ่งในวันที่ 2 ของการอภิปราย อนค. ขอเวลาช่วงไพรม์ไทม์ คือเวลา 20.00 น. ให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนค. โดยอนค.ย้ำหลายครั้งว่าเป็นการอภิปรายที่รับรองว่าเด็ดจริงๆ แต่ไม่มีการจัดการที่ดี จนนายวิโรจน์ได้ไปขึ้นอภิปรายจริงในเวลาเกือบ 23.00 น.

อย่างไรก็ตาม 6 พรรคร่วมได้มาปิดห้องประชุมร่วมกันในวันที่ 3 ของการอภิปราย ในเวลาช่วงก่อนเที่ยงวัน โดยได้เชิญนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน มาเข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อตกลงกันในเรื่องนี้ ทางพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ระบุว่า ไม่สามารถจัดการ หรือดำเนินการอะไรในพรรคได้เลย เพราะต้องรอคิวอภิปรายจากทางฟากวิปพรรคพท.และคณะกรมการยุทธศาสตร์ พรรคพท. ซึ่งจัดคิวการอภิปรายโดยเลขาธิการพรรรพท.และประธานวิปฝ่ายค้าน ที่ไปร่วมพูดคุยกับตัวแทนของวิปรัฐบาลได้และกลับมาแจ้งเรื่องการจัดคิวให้กับตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้านที่รอเพียงการยืนยันมติการพูดคุยเรื่องการจัดคิวส.ส.และเวลาในการอภิปรายเท่านั้น ในห้องประชุม301 เพื่อจัดคิวส.ส.ที่จะขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกวัน และตลอดช่วงวันแรกมาจนถึงช่วงสายของวันที่ 3 คิวการอภิปรายออกมาทีละชื่อสองชื่อ จนขนาดประธานสภาเอ่ยบนบัลลังก์ว่า ขอฝ่ายค้านส่งคิวชื่อคนอภิปรายให้ด้วย และไม่เคยมีมาก่อนที่มาส่งให้ทีละชื่อสองชื่อเช่นนี้ ในการประชุมแกนนำ 6 พรรคร่วมนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคพท. จึงบอกให้เอารายชื่อทั้งหมดที่จะอภิปรายขึ้นกระดาน พร้อมกำกับเวลาที่จะใช้ในการอภิปรายไว้ด้วย

ทั้งนี้ ในการประชุม อนค. ขอให้อภิปรายนายกฯ ให้จบภายในวันที่ 3 เพราะวันที่ 4 จะได้ใช้เวลาที่เหลืออภิปรายรัฐมนตรีคนอื่นๆ ซึ่งในที่ประชุมเคาะร่วมกันอย่างนั้นในช่วงเที่ยงๆ แต่พอเอาเข้าจริง ชื่อที่เคยกางร่วมกันในวงประชุมก็มีการปรับเปลี่ยนอีก และช่วงบ่าย พรรคพท.ก็ตั้งโต๊ะแถลงในห้อง 301 ซึ่งเป็นวงใหญ่ ระบุ จะอภิปรายนายกฯถึงเที่ยงวันที่ 4 ซึ่งไม่ได้ตรงกับข้อตกลงที่ทำไว้ในห้องประชุม 6 พรรคร่วมช่วงก่อนหน้านี้แต่อย่างใด ทำให้อนค.ต้องหักคอ ใช้แท็คติกเอาชื่อร.ต.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์มาอภิปรายพ่วงนายกฯเข้าไปจึงได้อภิปรายรัฐมนตรีคนอื่นบ้าง

รายงานข่าวระบุอีกว่า มาวันที่ 4 นายศรัณวุฒิ ศรัญเกตุ ที่จะอภิปรายเป็นคนแรกของวันมาเข้าห้องประชุมช้า แต่ก็พอเข้าใจได้ แต่ที่เข้าใจไม่ได้คือนายศรัณวุฒิใช้เวลาอภิปรายคนเดียวยาวนานถึง 3 ชั่วโมง ซึ่งพรรคพท.แม้พยายามเข้ามาบริหารคนของตนเอง แต่ก็ล้มเหลวในการจัดการ ไม่สามารถเบรกคนของตัวเองได้เลยแม้แต่น้อย และผู้อภิปรายทั้งที่รู้ว่าเกินเวลามาเป็นชั่วโมงแล้วก็ไม่แคร์คนอื่น ทำให้ภาพที่ออกมาเหมือนว่าปล่อยให้นายศรัณวุฒิอภิปรายไปเรื่อยๆจริงๆ ทั้งที่วิปฯ รู้ดีอยู่แล้วว่าเวลาจะไม่พอ การที่บอกว่า คิดว่าจะตกลงกับทางรัฐบาลให้ขยายเวลาไปจน 19.00 น. ได้นั้น สามารถคิดได้ แต่ถ้ายึดหลัก อันดับแรกควรเคารพเวลาที่ตกลงร่วมกันก่อน แล้วการขอเวลาเพิ่มเติมค่อยเกิดขึ้นทีหลัง ไม่ใช่ใช้เวลาของสมาชิกพรรคอื่นไปก่อน แล้วหวังลมขอเวลาเพิ่มเอามาแบ่งให้ทีหลังเช่นนี้ นอกจากนี้ พรรคร่วมยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า คนของพรรคพท. ตลอด 3 วัน จะได้ขึ้นอภิปรายในช่วงเวลาไพรม์ไทม์เสมอด้วย ซึ่งหากมีการสรุปปิดในเวลา 19.00 น. จริงตามที่วิปฝ่ายค้านไปตกลงมา นายสุทิน ซึ่งเป็นผู้สรุปปิดก็จะได้ขึ้นพูดในช่วงเวลาดังกล่าวในวันที่ 4 อีก

Advertisement

ขณะที่รายงานข่าวจากพรรคเล็กระบุว่า ที่ประชุมพรรคร่วมตั้งแต่เริ่มแรกได้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อทำหน้าที่ไปเจรจากับทางรัฐบาลทั้งหมด 5 คน โดยคละพรรค แต่เวลาที่มีการเจรจากับรัฐบาล เลขาธิการพรรคพท. และประธานวิปฝ่ายค้าน มักจะไปทำการเจรจาโดยไม่ได้แจ้งคณะกรรมการคนอื่นๆ ซึ่งหลายครั้งที่ไปตกลงกับทางรัฐบาล เช่น เรื่องเวลา หรือเรื่องการไม่ให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) อภิปรายเรื่องถวายสัตย์ฯ มา โดยที่กรรมการคนคนอื่นที่มาจากพรรคร่วมก็ไม่รู้ และการให้คิวกับพรรคเล็กร่วมฝ่ายค้านก็ไม่ชัดเจน ตัวแทนบางพรรคเกือบไม่ได้ขึ้นพูดในเวลาที่ตกลงไว้ หรือหัวหน้าพรรคบางพรรคเตรียมตัวมาอภิปรายมาวันนึงก็ถูกเลื่อนออกไปให้อภิปรายอีกวันหนึ่งโดยไม่ทราบเหตุผลก็มี

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image