“เทพไท” ชี้การทำงานของ กมธ.ศึกษา แก้ รธน. ต้องสรุปชัดแก้-ไม่แก้รัฐธรรมนูญ เรียกร้องผบ.เหล่าทัพแสดงจุดยืนไม่ต้องการเป็น ส.ว.หนุนรัฐบาลเร่งแก้รัฐธรรมนูญตามนโยบายด่วน
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของนักศึกษาที่จะให้แก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ตนในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญคนหนึ่งได้เป็นตัวแทนกับ กมธ.ส่วนหนึ่งไปรับหนังสือการยื่นข้อเสนอจากเครือข่ายนิสิต นักศึกษา ที่ออกมาเคลื่อนไหวแฟลชม็อบ และคณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) ซึ่งข้อเสนอของนักศึกษาคือต้องการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยการทำงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯชุดนี้จะเสร็จสิ้นลงในวันที่ 18 เม.ย. ซึ่งจะได้ข้อสรุปว่าเราจะแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 รายมาตรา หรือเราจะตั้ง ส.ส.ร.เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ จึงจะเห็นการเคลื่อนไหวค่อนข้างหลากหลาย แต่ที่น่ายินดีคือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ออกมาแสดงท่าทีสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายเพื่อนำไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นก็ถือเป็นความคืบหน้า
นายเทพไทกล่าวว่า ส่วนตนที่เป็นหนึ่งในกมธ.ก็อยากจะให้เรื่องนี้ได้ข้อสรุป โดย กมธ.ชุดนี้ต้องสรุปว่า เราจะแก้ไขในทางใดไม่ใช่แค่รวบรวมข้อเสนอของทุกฝ่ายไปนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฏร ฉะนั้นเปิดสภารอบนี้เราต้องเห็นความคืบหน้าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเรารอเวลาไม่ได้แล้วอีกทั้งกลุ่มนักศึกษาก็กดดันอยู่เป็นเสียงเรียกร้องที่กำลังดังขึ้น และสิ่งที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ถือว่าสิ่งที่เราเคยเสนอว่าหลักการประชาธิปไตยที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้ามาเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จำนวน 6 ตำแหน่ง วันนี้ก็น่ายินดีที่ ผบ.เหล่าทัพทั้ง 6 คนได้ออกมาแสดงท่าทีว่าต้องการที่จะคืนเงินเดือนทั้งหมดที่รับมา 1 ปีให้กับวุฒิสภาเพื่อต้องการแสดงเจตนารมณ์ว่าไม่ต้องการที่จะรับเงินเดือน 2 ทาง ซึ่งนั่นถือเป็นการเอาเปรียบคนอื่น นักการเมืองโดยทั่วไปที่มาจากการเลือกตั้งรับเงินเดือนเพียงตำแหน่งเดียว แต่ ผบ.เหล่าทัพรับทั้ง 2 ทางซึ่งถือว่าเป็นการไม่ยุติธรรม และกำลังเป็นที่ถกเถียงว่าการที่เอา ผบ.เหล่าทัพซึ่งเป็นข้าราชการประจำมานั่งอยู่ในวุฒิสภาเพื่อควบคุมรัฐบาลในขณะเดียวกันรัฐบาลก็มาควบคุม ผบ.เหล่าทัพ ซึ่งเกิดความลักลั่น การปกครองในระบอบประชาธิปไตย เชื่อว่าเมื่อ ผบ.เหล่าทัพแสดงท่าทีอย่างนี้ตนก็อยากให้ผบ.เหล่าทัพนอกจากการแสดงคืนเงินเดือนแล้วอยากจะให้แสดงจุดยืนว่าทั้ง 6 คนไม่ต้องการที่จะมาเป็น ส.ว. โดยตำแหน่ง เพื่อที่จะเป็นช่องทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ปลดล็อกให้ตำแหน่ง ผบ.เหล่าทัพออกจาก ส.ว.ซึ่งจะได้เป็นประชาธิปไตยตามที่มาตรฐานสากลในอารยประเทศเขาทำกัน
“ผมสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็ว และจะแก้ไขทั้งฉบับ หรือรายมาตรา หรือเฉพาะมาตรา 256 ก็แล้วแต่มติที่ประชุม แต่ยืนยันว่ารัฐบาลจะซื้อเวลาเรื่องนี้ไม่ได้เพราะเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ในข้อ 12 ซึ่งคำว่าเร่งด่วนต้องทำภายในหนึ่งปีอย่างน้อยฉะนั้นรัฐบาลจะต้องสานต่อหรือทำนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลให้เป็นจริง” นายเทพไทกล่าว
