เอนก โพสต์ วิกฤตโควิดสะท้อนพอเพียงสำคัญสุด “เงินทองคือมายา หยูกยาสิของจริง”

“เอนก”โพสต์ วิกฤตโควิด สะท้อนภาพความพอเพียงอีกครั้ง ชี้ เงินทองกลายเป็นมายา แต่” ยา ” คือของจริง

เมื่อวันที่ 12 เมษายน นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาระบุว่า “วิกฤตโควิด กับเศรษฐกิจพอเพียง” เมื่อคราววิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 2540 เราได้เห็นความสำคัญของชนบทและภาคเกษตร ที่รองรับคนว่างงานจากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ ความลำบากในยามนั้น ทำให้เราคิดกันได้ว่า เงินทองนั้นเป็นเพียงมายา ข้าวปลาอาหารต่างๆ คือของจริง แม้อยากทันโลก อยากรุ่งเรืองปานใด ก็จะทิ้งภาคเกษตร อาหารไม่ได้

วิกฤตโควิด-19 เที่ยวนี้ ทำให้ได้เห็นความสำคัญของความ พอเพียงกันอีกครั้งหนึ่ง ในแง่ที่จะอาศัยแต่เพียง ตลาดโดยเฉพาะตลาดโลกมาจัดหาหยูกยา วัคซีน วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ ไม่ได้ ในยามที่วิกฤตเกิดทั้งโลกนั้น ถึงเรามีเงิน เขาก็ต้องเก็บของไว้ใช้กันเอง ไม่ยอมขายให้เรา เงินทองกลายเป็นมายาไปอีกรอบ และหยูกยาต่างหากคือของจริง

นายเอนก ระบุต่อว่า สักวันสองวันที่ผ่านมานี้ ก็มีข่าวดีว่ากองทัพเรือประดิษฐ์เครื่องขนส่งผู้ป่วยที่มีความดันลบสำหรับขนส่งผู้ป่วยโควิด-19 ได้ เป็นแบบง่ายๆ อาศัยประสบการณ์ของทหารเรือในการทำอุปกรณ์ดำน้ำ ตนลองคุยกับหมอๆ ทั้งหลายดู ก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะใช้ของในแทน ของนอกกันโดยง่าย ก็ด้วยวิธีคิดกัน แบบเดิม แทนที่จะพากันตื่นเต้น และวางแผนให้เกิดห้องความดันลบแบบเมด อิน ไทยแลนด์ แพงหน่อยก็ต้องทำ รัฐต้องวางแผนสนับสนุน แม้ไม่ดีหน่อย เราก็ให้โอกาส ให้ปรับปรุงไป ทำให้การแพทย์-สาธารณสุขของไทยไม่เพียงจะทันสมัยหรือเก่งระดับโลกอย่างที่คุยกันอยู่ แต่ยังจะพอเพียง พึ่งตนเอง ได้มากขึ้น ด้วยแน่นอน เราย่อมไม่ปิดกั้นการเอาต่างชาติมาร่วมทำร่วมลงทุน เพียงเราต้องเป็นหุ้นใหญ่ และผลิตใช้ในประเทศเป็นสำคัญ ในยามคับขัน ก็ห้ามส่งออกได้ และเรานั้นไม่ปฏิเสธตลาด แต่ก็ไม่อาศัยเพียงตลาดและระบบโลกาภิวัตน์มาจัดหาหรือจัดสร้างหยูกยา และอุปกรณ์การแพทย์-สาธารณสุขที่สำคัญ

นายเอนก ระบุต่อว่า ก่อนหน้าเรื่องนี้ ก็ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง คือ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง ผลิตเครื่องช่วยหายใจแบบง่ายๆ ขึ้นมาได้ มีคนชื่นชมและให้กำลังใจมากมาย แต่ก็มีคุณหมอจำนวนหนึ่ง ทั้งที่ยังไม่เห็นเครื่อง ก็อดเป็นห่วงก่อนว่ามาตรฐานอาจจะไม่ถึง ช่วยชีวิตไม่ได้จริง หากคิดแบบเดิม คุณหมอ และคุณพยาบาล ย่อมไม่ค่อยอยากลอง เพราะ ยังสู้ของนอกไม่ได้

Advertisement

“เรามีวิศวกร ช่างฝีมือ นักประดิษฐ์ที่มีความสามารถไม่น้อย วิกฤตโควิดที่เกิดแทบทั้งโลกเช่นนี้ รัฐบาลและสังคมต้องเปลี่ยนหลักคิด พลิกวิกฤตมาเป็นโอกาส เวลานี้เห็นชัดว่าเราอยู่แถวหน้าของโลกทางอาหารและทางแพทย์-สาธารณสุข อีกในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ อาหารรวมทั้งข้าวจะแพง หายากกันทั้งโลก ถ้าเราทำเป็น ทำทัน ไม่สาละวนกับไวรัสเพียงอย่างเดียว ดูน้ำให้ดี เร่งทำการเพาะปลูก จะมีรายได้มหาศาลกัน แต่อย่าลืมคนไทยเองต้องมีอาหารพอเพียงด้วย ขณะเดียวกัน ได้เห็นแล้วว่าการแพทย์-สาธารณสุขของเรานั้นดีจริง แต่ก็ต้องเปลี่ยนให้พึ่งตนเองให้ได้มากขึ้น

นายเอนก ระบุต่อว่า สุดท้าย ภาคท่องเที่ยว ที่เคยทำรายได้ให้ประเทศมากมายนั้น ก็ต้องฟื้นขึ้นมา อย่าปล่อยให้ฟุบอยู่นานเกินไป เฉพาะหน้านี้ อาจทำการท่องเที่ยวเชิงสุขอนามัยเป็นที่กักเก็บตัวที่สะดวกสบายของคนชั้นกลางชั้นสูงทั่วโลก โดยชี้ให้โลกเห็นว่า นักท่องเที่ยวเหล่านั้น จะได้อยู่กับระบบการแพทย์และสุขอนามัยที่ดีในระดับโลกด้วย

นายเอนก ทิ้งท้ายว่า ทั้งหมดนี้มีรายละเอียด ซึ่งต้องคิดกันต่อไป ฝรั่งมักจะพูดว่าถ้าจะตามหาพระเจ้ามาช่วยทำเรื่องแสนยากแสนยุ่งให้เกิดขึ้นได้นั้น จะไปหาท่านได้ที่ไหน คำตอบ ท่านสถิตย์อยู่ในสิ่งที่เรียกว่ารายละเอียดอยู่แล้วครับ ฉะนั้นช่วยกันคิดต่อไปด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image