มติครม.เห็นชอบอัตราการชดเชยความเสียหายให้สถาบันการเงิน

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ (แฟ้มภาพ)
ครม. เห็นชอบอัตราการชดเชยความเสียหายให้สถาบันการเงินตามมาตรา 11 ของพ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2563 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบอัตราการชดเชยความเสียหายให้สถาบันการเงินตามมาตรา 11 ของพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) พ.ศ. 2563 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เสนอให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบอัตราการชดเชยความเสียหายให้สถาบันการเงินตามมาตรา 11 ของพ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสวิด-19 พ.ศ. 2563 โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1.ร้อยละ 70 ของจำนวนเงินที่ธนาคารพาณิชย์ และ SFIs ต้องกันสำรองเพิ่มเติมจากยอดหนี้รวมของลูกหนี้คูณด้วยอัตราส่วนของยอดหนี้ใหม่ตามพระราชกำหนดนี้กับยอดหนี้รวม สำหรับผู้ประกอบวิสาหกิจที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 50 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562 และ 2.ร้อยละ 60 ของจำนวนเงินที่ธนาคารพาณิชย์ และ SFIs ต้องกันสำรองเพิ่มเติมจากยอดหนี้รวมของลูกหนี้คูณด้วยอัตราส่วนของยอดหนี้ใหม่ตามพ.ร.ก.นี้กับยอดหนี้รวม สำหรับผู้ประกอบวิสาหกิจที่มีวงเงินสินเชื่อเกิน 50 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ อัตราดังกล่าวมีความเหมาะสมในการดูแลให้ธนาคารพาณิชย์และ SFIs ช่วยเหลือลูกหนี้โดยการเร่งปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มสภาพคล่องโดยเฉพาะให้แก่ผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดเล็ก เป็นการรักษาความมั่นคงของธนาคารพาณิชย์และ SFIs ภายใต้ภาวะที่มีความเสี่ยงของลูกหนี้อยู่ในระดับสูง และไม่สร้างภาระทางการคลังที่มากเกินควร นอกจากนี้ อัตราดังกล่าวสอดคล้องกับหลักการของร่างพ.ร.ก.ที่ครม. เห็นชอบไว้เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image