‘เทพไท’ แนะรัฐบาล เร่งช่วยคนรากหญ้า หาเช้ากินค่ำ หวั่นคนฆ่าตัวตายรายวันเพิ่ม

“เทพไท”ชี้ รบ.แก้ปัญหาโควิด ทำเรื่องยากให้ยากยิ่งกว่า ทำให้เยียวยา ปชช.เดือดร้อนล่าช้า

เมื่อวันที่ 23 เม.ย.นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาต่างๆของรัฐบาลในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้นเรื่องน่าเสียดายที่ตนเคยเสนอแนวทางแก้ไขต่อรัฐบาลหลายครั้ง แต่รัฐบาลไม่ได้นำไปใช้ ก็เป็นสิทธิ์ของรัฐบาล ซึ่งยังคงแก้ปัญหาในลักษณะ ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก และทำเรื่องยากให้ ยากยิ่งขึ้น เช่น 1.การออกจดหมายจากนายกรัฐมนตรี ถึงมหาเศรษฐี 20 คนนั้น หากนายกฯ ได้ทำจดหมายฉบับนี้ออกมาก่อน การพูดในรายการโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย(ทรท.) หรือทำออกมาพร้อมนายกฯพูด ก็จะไม่มีปัญหาการถูกวิพากษ์วิจารณ์ ประเด็นรัฐบาลขอทาน รัฐบาลขอรับบริจาค หรือรัฐบาลไถเงินแต่อย่างใด เพราะเนื้อหาจดหมายของนายกฯเป็นเพียงจดหมายธรรมดา เป็นการขอความร่วมมือในการพัฒนาประเทศ ไม่มีการขอรับบริจาคเงินแต่อย่างใด ทั้งๆที่หลังการได้รับจดหมายแล้ว มหาเศรษฐีทุกคนดีใจขานรับและพร้อมสนับสนุนรัฐบาลกันทุกคน 2.ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากคือ การคิดค่าไฟฟ้าและค่าโทรศัพท์มือถือให้กับประชาชน วิธีการที่ทำได้ง่ายที่สุด คือใช้ใบเสร็จค่าไฟในเดือนกุมภาพันธ์เป็นตัวตั้ง ยอดการใช้ไฟฟ้าเกินจากใบเสร็จเดือนกุมภาพันธ์ รัฐบาลให้ใช้ฟรี ถือว่าเป็นส่วนเกินในช่วงประชาชนหยุดอยู่บ้านรัฐบาลขอรับผิดชอบให้ หรือจะเลือกใช้วิธีค่าไฟฟ้ารายเดือนลด 50% โดยรัฐบาลจ่ายครึ่งหนึ่ง ผู้ใช้บริการจ่ายครึ่งหนึ่ง ดีกว่ามาตรการที่รัฐบาลประกาศเพิ่งประกาศใช้ ซึ่งมีความสลับซับซ้อน เข้าใจยาก ส่วนการช่วยเหลือค่าโทรศัพท์มือถือ ถ้าใช้วิธีการช่วยเหลือทุกหมายเลข ไม่ต้องลงทะเบียน กด*170*ตามด้วยเลขบัตรประชาชน กด#แล้วโทรออก เพื่อขอใช้สิทธิ์เพิ่มเติม จะถือว่าเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนมากที่สุด

และ3.การทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายแต่รัฐบาลไม่ยอมทำ กลับทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องยากยิ่งขึ้น ในเรื่องโครงการเราไม่ทิ้งกัน ที่มีการเปิดลงทะเบียนช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งยอดในขณะนี้รัฐบาลเพิ่มเป็น 14ล้านคน และมีแนวทางจ่ายให้กลุ่มเกษตรกรอีก 9 ล้านครอบครัว ถ้ารัฐบาลใช้หลักคิดที่ตนเสนอคือ เยียวยาทุกครัวเรือน ซึ่งทั้งประเทศมีอยู่ 20ล้านครัวเรือน จะมีจำนวนน้อยกว่ายอดตัวเลขที่รัฐบาลจะเยียวยาคือครัวเรือนเกษตรกร 9 ล้านครัวเรือนรวมกับยอดผู้ได้รับการเยียวยา 14 ล้านคน จะเท่ากับ23ล้านคน ซึ่งมากกว่าจ่ายให้ทุกครัวเรือนอีก หรือถ้าหากรัฐบาลจะเลือกวิธีการเยียวยา ให้คนอายุ 18 ปีขึ้นไป มีเงินฝากในธนาคารยอดไม่เกิน 1 แสนบาท ก็จะใช้วงเงินใกล้เคียงกัน แต่วิธีการในการทำงานง่ายกว่า และรวดเร็วกว่าการทำงานในปัจจุบัน เพราะสามารถทำเสร็จได้ ภายใน5-10วัน ซึ่งต่างกันวิธีการลงทะเบียนและคัดกรองด้วยระบบ AI จนถึงบัดนี้ยังไม่เสร็จสิ้น จากยอดคนลงทะเบียนทั้งหมด28.8ล้านคน และยังมีการยื่นทบทวนสิทธิ์อีกส่วนหนึ่ง

“ข้อเสนอและความเห็นทั้งหมดนี้ แม้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้วก็ตาม แต่เป็นการตั้งข้อสังเกต และแสดงความเห็นในฐานะ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลคนหนึ่ง ที่มีความปรารถนาดี และขอพูดแทนพี่น้องประชาชนในเรื่องปัญหาปากท้องไม่ใช่ประเด็นทางการเมืองมายังรัฐบาลให้ได้รับรู้ข้อมูลบ้าง

จึงอยากให้รัฐบาลได้พิจารณาถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ด้วยการเยียวยาต้องทำในทันท่วงที และเร็วที่สุด เพราะคนหาเช้ากินค่ำ คนไม่มีรายได้ จะต้องกินต้องใช้ทุกวันหากโครงการนี้ใช้เวลานานถึง2เดือน ก็จะมีประชาชนอดตาย ฆ่าตัวตายรายวัน อย่างแน่นอน ในสถานการณ์เช่นนี้ ประชาชนส่วนใหญ่มีความเดือดร้อนกันทั่วหน้า ยกเว้นคนที่เป็นข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสากิจที่มีเงินเดือนจากรัฐบาลเท่านั้น ที่มีความเดือดร้อนน้อยกว่าอาชีพอื่นๆ”นายเทพไท กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image