ศบค.แถลง พบผู้ติดเชื้อใหม่ 13 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงสูงอายุ มีโรคประจำตัวหลอดเลือดสมอง ย้ำ เราต้องควบคุมให้ดี การ์ดอย่าตก เผย 9 จังหวัดที่ไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้ออยู่ในภาคกลาง
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 23 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ .ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) แถลงถึงความคืบหน้าสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ว่า ผู้ติดเชื้อใหม่ 13 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,839 ราย หายป่วยเพิ่ม 78 รวมหายป่วยสะสม 2,430 ราย มีผู้ติดเชื้อกระจายตัวใน 68 จังหวัด เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเสียชีวิต 50 ราย โดยผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมนั้น เป็นหญิงไทย อายุ 78 ปี มีโรคประจำตัวหลอดเลือดสมอง เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 20 มีนาคม มีอาการทางเดินปัสสาวะอักเสบ ต่อมาวันที่ 24 มีนาคม เริ่มมีอาการไข้และปอดบวม จึงเก็บตัวอย่างส่งตัวหาเชื้อผลการตรวจยืนยันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 5 เมษายน ต่อมามีอาการแย่ลง และเสียชีวิตในวันที่ 21 เมษายน ด้วยสาเหตุติดเชื้อในกระแสเลือดและภาวะหายใจล้มเหลว อย่างไรก็ตาม คนกลุ่มใหญ่ที่เสียชีวิต มีอายุมากกว่า 60 ปี ส่วนกลุ่มคนที่ติดเชื้อมากที่สุดเป็นคนกลุ่มวัยหนุ่มสาว วัยทำงาน แต่กลุ่มคนที่ติดเชื้อมากที่สุดไม่ได้เสียชีวิตมากที่สุด แต่กลุ่มคนที่ติดเชื้อน้อยกลับเสียชีวิตมาก
“เดือนนี้เข้าเดือนที่ 4 ถ้าเป็นมวย มี 12 ยก ตามทฤษฎีหลายคนบอกว่าอาจจะต้องยาวนานเป็นปี นี่เข้ายกที่ 4 เอง ซึ่งเราจะต้องมีการเก็บคะแนนไปเรื่อยๆ การที่เราได้ 13 ราย ณ วันนี้ จากที่เคยสูงสุด 188 ราย ในช่วงวันที่ 22 มีนาคม ตอนนี้เราทำคะแนนได้ดี แต่ต้องทำคะแนนไปทุกยกอีกยาว ดังนั้น การ์ดอย่าตก ถ้าตกแม้แต่นิดเดียว มีบางประเทศน็อกไปแล้ว ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งจากหลักพันและกำลังจะขึ้นเป็นหลักหมื่น “
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 13 ราย พบว่า สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 5 ราย เป็นคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 1 ราย ไปสถานที่ชุมนุม เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 1 ราย อาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานในสถานที่แออัด หรือทำงานใกล้ชิดสัมผัสชาวต่างชาติ 2 ราย ตรวจก่อนทำหัตถการ 1 ราย การค้นหาเชิงรุกที่จ.ภูเก็ต 3 ราย ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13 รายแบ่งเป็น กรุงเทพ 4 ราย ภูเก็ต 4 ราย ชลบุรี สงขลา ชุมพร ปทุมธานี นครปฐม 1 ราย และจังหวัดที่ยังไม่มีรายงานการรักษาผู้ป่วย ประกอบด้วย กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี อ่างทอง และสตูล
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่ออีกว่า ทางกรมควบคุมโรค โดยกองระบาดวิทยา วิเคราะห์ว่า จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อมาก่อนเลย มีจำนวน 9 จังหวัด จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อ 14-28 วันที่ผ่านมา 32 จังหวัด จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อ 7-14 วันที่ผ่านมา 13 จังหวัด และจังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อ 7 วันที่ผ่านมา 14 จังหวัด ส่วนจังหวัดที่มีผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค หรือ PUI โดย กรุงเทพ 10,942 ราย ยะลา 4,060 ราย นนทบุรี 3,578 ราย ภูเก็ต 2,136 ราย สมุทรปราการ 1,285 ราย โดยจังหวัดที่ไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อ ทั้ง 9 จังหวัดนั้น จะอยู่ในภาคกลาง อย่างไรก็ตาม
สำหรับผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ พบว่ากลุ่มจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อเลย นับจากวันที่ 1 เมษายนมีรายงาน 15 จังหวัด ปัจจุบันเหลือ 9 จังหวัด ซึ่งเป็นตัวเลขที่คงที่มา 3 สัปดาห์แล้ว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ส่วนจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยช่วง 14-28 วันที่ผ่านมา จากตัวเลขวันที่ 1 เมษายน 12 จังหวัด ปัจจุบันเพิ่มเป็น 32 จังหวัด ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่อยากให้ลดลงคือ จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อช่วง 7 วัน โดย 1 เมษายน มี 50 จังหวัด ค่อยๆลดลงมาปัจจุบันเหลือ 14 จังหวัด สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ แนวโน้มกรุงเทพและนนทบุรี ลดลง ส่วนต่างจังหวัดอื่นๆ เพิ่มขึ้นส่วนภาคใต้ตัวเลขยังทรงๆอยู่
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า สำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในคลินิกที่อยู่ในกรุงเทพ คลินิก ARI สปคม. ช่วงวันที่ 6-14 มีนาคม ตรวจ 277 เจอ 15 ช่วง 15-21 มีนาคม ตรวจ 998 เจอ 46 ช่วง 22-28 มีนาคม ตรวจ 666 เจอ 14 ช่วง 29 มีนาคม-4 เมษายน ตรวจ 458 เจอ 6 ช่วง 5 -11 เมษายน ตรวจ 269 เจอ 7 ช่วง 12-17 เมษายน ตรวจ 682 เจอ 6 อย่างไรก็ตาม การตั้งรับอย่างเดียวไม่ได้เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ช่วงหลังจึงมีการปรับใหม่ ทางสปคม. ได้ออกเแบบวิธีการค้นหาผู้ป่วยโควิด-19 เชิงลึกในชุมชน โดยไปที่ชุมชนเขตบางเขน คลองเตย เพื่อหาผู้ป่วยกลุ่มเฉพาะที่แสดงอาการและไม่แสดงอาการเพื่อนำข้อมูลมาวางแผนเชิงนโยบาย โดยผลการตรวจตั้งแต่วันที่ 15-22 เมษายน 1876 ราย แต่พบติดเชื้อ 1 รายเท่านั้น
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ของโลก พบว่า ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อรวม 2,634,529 ราย มีผู้เสียชีวิต 184,021 ราย อาการหนัก 56,680 ราย โดยสหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง 848,115 เสียชีวิต 47,639 ราย สเปน มีผู้ติดเชื้อ 208,389 ราย เสียชีวิต 21,717 ราย อิตาลี มีผู้ติดเชื้อ 187,327 ราย เสียชีวิต 25,085 ราย ส่วนเอเชีย ญี่ปุ่น มีผู้ติดเชื้อ 11,512 ราย เสียชีวิต 281 ราย ส่วนสิงคโปร์ มีผู้ติดเชื้อ 10,141 ราย เสียชีวิต 12 ราย ขณะที่ประเทศไทย อยู่ลำดับที่ 56 ของโลก มีผู้ติดเชื้อ 2839 ราย เสียชีวิต 50 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกาดูเหมือนจะดีขึ้น แนวโน้มผู้ป่วยรายใหม่ลดน้อยลง แต่กลุ่มทางรัสเซีย ตุรกี อังกฤษ สเปน ยังทรงๆอยู่ ดังนั้น สถานการณ์ต่างๆจึงยังไม่น่าไว้วางใจ ส่วนอินเดีย ภาพรวมตัวเลขยังน่าห่วง ไทยเรายังมีคนไทยที่ต้องเดินทางกลับจากอินเดียด้วย ซึ่งเราต้องดูแล ส่วนสิงคโปร์แนวโน้มตัวเลขยังพุ่งขึ้น ปากีสถานเช่นกัน ส่วนญี่ปุ่นและอินโดนีเซียตัวเลขยังทรงๆอยู่
