‘วิโรจน์’แนะ เปิดสมัยวิสามัญถกปัญหาปชช. เชื่อ จัดระเบียบห้องประชุมนั่งห่างกันได้

‘วิโรจน์’ จี้ เปิดสมัยวิสามัญ เชื่อ จัดระเบียบห้องประชุมนั่งห่างกันได้ วอน รัฐบาลคิดถึงความทุกร้อนของปชช. เร่งแก้ปัญหาปากท้อง

เมื่อวันที่ 24 เมษายน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ปัจจุบันประชาชนจำนวนมากกำลังประสบกับปัญหาความทุกข์ยาก เนื่องจากไม่สามารถออกไปทำมาหากินได้ตามปกติ จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล ซึ่งก็เข้าใจถึงความจำเป็นของการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินมาตรการในการบรรเทาปัญหาปากท้อง และการทำกินของประชาชนอย่างเร่งด่วน ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งปัจจุบันต้องยอมรับความจริงว่า รัฐบาลทำได้อย่างล่าช้า และยังคงซื้อเวลาออกไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีกำหนดที่ชัดเจน สาเหตุหนึ่ง ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเหตุผลของความล่าช้า ก็คือ ข้อจำกัดด้านงบประมาณ ซึ่งหากมีการเปิดสมัยประชุมวิสามัญ และรัฐบาลจัดประชุม ครม. นัดพิเศษเพิ่มเติม โดยเลื่อนการรับทราบผลการดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนชนต่อร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณขึ้นมาเป็นวันที่ 8 พฤษาคม จากนั้นก็เห็นชอบ ภายในวันที่ 12 พฤษภาคม และเปิดสมัยประชุมวิสามัญภายในวันที่ 15 พฤษาคม ก็จะทำให้รัฐบาลมีงบประมาณที่จะไปช่วยเหลือเยียวยาประชาชนได้ทันทีในช่วงต้นเดือนมิถุนายน

นายวิโรจน์ กล่าวว่า สำหรับข้ออ้างที่ว่า ถ้ามีการเปิดสมัยประชุมวิสามัญ โดยมี ส.ส. มาประชุมกัน แล้วอาจจะเกิดการแพร่ระบาดแบบ Super Spreader เหมือนกับกรณีของสนามมวยลุมพินี ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนที่ชัดเจนออกมาแต่อย่างใด นั้นเป็นข้ออ้าง ที่จะเอามาเป็นเหตุในการไม่ยอมเปิดประชุม และเป็นการสะท้อนว่ารัฐบาลไม่มีความกระตือรือร้น เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนเลย ห้องประชุมสุริยันนั้นมีที่นั่งรองรับได้ถึง 1,209 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังสามารถซักซ้อมพรรคการเมืองต่างๆ ให้มอบหมายส.ส. มาประชุมเพียงจำนวนหนึ่ง เพื่อรักษาองค์ประชุมให้พอครบเท่านั้น ซึ่งหากมาประชุมกันในระดับ 244 – 260 คน กับที่นั่งที่มีอยู่ทั้งหมด 1,209 ที่นั่งในห้องสุริยัน ก็ยังคงสามารถรักษาระยะห่างทางสังคมได้ หรือต่อให้จำเป็นต้องประชุมในห้องประชุมจันทรา ที่มีที่นั่ง 350 ที่ ก็ยังคงสามารถรักษาระยะห่างทางสังคมได้ อย่างไม่มีปัญหา กระบวนการคัดกรองต่างๆ ก็ยังสามารถทำได้

นายวิโรจน์กล่าวถึงการแสดงความเห็นของวิปรัฐบาล ว่า เป็นข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ เพราะอย่างไรก็ตามกำหนดการเดิม สภาผู้แทนราษฎร ก็จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ. โอนงบประมาณ ทั้ง 3 วาระ ในวันที่ 28 พฤษภาคม ซึ่งในช่วงช่วงวันดังกล่าว สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ก็ยังไม่หมดไปอยู่ดี ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ จึงอยากให้รัฐบาลทบทวน คิดถึงความทุกข์ร้อน และความหิวโหยของประชาชนให้มากๆ มีสำนึกเสียทีว่าประชาชนนั้นรอคอยไม่ได้อีกแล้ว และเร่งตัดสินใจเปิดสมัยประชุมวิสามัญ เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรได้ช่วยร่นเวลา และเร่งรัดการแก้ไขปัญหาปากท้อง และการทำมาหากินให้กับประชาชนได้แล้ว เรื่องความกลัวการแพร่ระบาดของโรค หากใช้สติปัญญา โดยมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาของประชาชนเป็นที่ตั้ง และรู้จักที่จะถอดบทเรียนจากกรณีสนามมวย การวางแผนป้องกันการแพร่ระบาด นั้นไม่เกินวิสัยที่สามารถทำได้อยู่แล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image