เมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ศาลาว่าการกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประชุมร่วมกับหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม (นขต.กห.) และเหล่าทัพ เพื่อติดตามการบริหารจัดการมาตรการกักตัวควบคุมโรคของรัฐ (State Quarantine ) โดยที่ประชุมได้สรุปภาพรวม ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา สถานภาพคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ผ่านท่าอากาศยานนานาชาติ เข้าสู่กระบวนการคัดกรองและยังคงพักอยู่ในสถานที่ควบคุมโรคแห่งรัฐที่กำหนด จำนวน 1,848 ราย และยังคงอยู่ในการดูแลเฝ้าระวังกักตัวเองที่บ้านพัก 174,846 ราย โดยสาธารณสุขในพื้นที่ ทั้งนี้ ตั้งแต่ 18-24 เมษายนที่ผ่านมา มีคนไทยเดินทางผ่านแดนกลับจากมาเลเซีย รวม 2,681 ราย เดินทางโดยถูกกฎหมาย 1,761 ราย และลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย 920 ราย ทั้งหมดต้องเข้าตรวจคัดกรองในทุกด่านชายแดนและส่งต่อกลับภูมิลำเนาเข้ากักตัวควบคุมโรคในสถานที่ที่แต่ละจังหวัดกำหนดภายใต้การดูแลของสาธารณสุขและหลายหน่วยงานในพื้นที่
พล.ท.คงชีพกล่าวอีกว่า นอกจากนั้นทุกเหล่าทัพได้ร่วมกับตำรวจ จัดกำลังคัดกรองการผ่านเข้าออกตามแนวชายแดน จัดตั้งจุดตรวจ จุดควบคุมและสายตรวจ เพื่อดูแลความปลอดภัยทุกพื้นที่ทั่วประเทศในภาพรวม รวมทั้งให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทำความสะอาดล้างสิ่งปนเปื้อนในพื้นที่สาธารณะจัดทำหน้ากากผ้าแจกจ่ายให้ประชาชน สนับสนุนนำผลิตภัณฑ์การเกษตรออกจำหน่ายในราคาพิเศษแก่ประชาชน และจัดรถครัวสนามเคลื่อนที่กว่า 160 คัน กระจายประกอบอาหารแจกจ่ายตามชุมชนต่างๆ พร้อมทั้งยังคงความต่อเนื่องในการหมุนเวียนกำลังพลเข้าร่วมบริจาคโลหิตกับสภากาชาดไทย ในสภาวะการณ์โลหิตขาดแคลนแล้ว จำนวนรวมกว่า 1.5 ล้านมิลลิลิตร ทั้งนี้ กรมแพทย์ทหารบกได้สนับสนุนส่งมอบห้องผู้ป่วยความดันลบที่จัดทำขึ้น จำนวน 44 ห้อง ให้ สธ.กระจายติดตั้งใน รพ.ประจำจังหวัด ปัตตานี 17 ห้อง ยะลา 17 ห้อง และนราธิวาส 10 ห้อง เรียบร้อยแล้ว
พล.อ.ชัยชาญกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ย้ำให้ กอ.รมน.ภาค 4 (สน.) ร่วมกันดูแลสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือคนไทยที่ทยอยเดินทางกลับจากมาเลเซียผ่านจุดผ่านแดนเข้ามาตรการควบคุมโรคในภูมิลำเนาของตนที่แต่ละจังหวัดกำหนด รวมทั้งดูแลผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายด้วยหลักมนุษยธรรมและต้องเป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคแห่งรัฐ พร้อมทั้งขอให้ทำงานร่วมกับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันและผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ สนับสนุนการดูแลพี่น้องชาวไทยมุสลิมในการปฏิบัติตน เพื่อป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ พล.อ.ชัยชาญได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมความพร้อมของสถานที่และการดำเนินการในพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐ ณ H2do Residence ซึ่งเป็นที่พักของพระสงฆ์ที่เดินทางกลับจากอินเดีย และ รร. Cinnamon ซึ่งเป็นที่พักของคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศตุรกีและประเทศมาเลเซีย รวมทั้ง ร.ร. Palazzo
