เสธ.แมวฉะบิ๊กตู่ ไร้ภาวะบริหารพรรคร่วม ชงต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหวังยื้อเวลารวบอำนาจ โหมจบโควิดเจอม็อบ น.ศ.แน่
เมื่อวันที่ 28 เมษายน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน ว่าทันทีที่รัฐบาลประกาศจะใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อได้ทำให้สังคมเกิดความกังขาว่า เหตุที่ต้องขยายนั้นเกิดจากความไม่ลงรอยของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสียมากกว่าหรือไม่ จึงทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดึงอำนาจไปไว้ที่ตนเอง จึงถูกตำหนิว่ารวบอำนาจมากดหัวประชาชน เพราะถ้ามีภาวะผู้นำจริงก็ควรจะพิจารณาใช้อำนาจปกติของนายกรัฐมนตรีและ ครม.รวมไปถึงอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดตาม พ.ร.บโรคติดต่อก็สามารถบูรณาการการสั่งการส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขวิกฤตโควิด-19 ของจังหวัดให้เกิดเอกภาพการรับมือได้อย่างเพียงพอ ประกอบกับหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือนั้นเราก็สามารถผลิตเองได้เพียงพอ อาหารการกินยิ่งผลิตได้เหลือเฟือ
“ทั้งหมดขอเพียงรัฐบาลมีสมองบริหารรูปแบบการแจกจ่ายคูปองฟรี หรือจำหน่ายราคาถูก ทำให้ประชาชนมั่นใจว่ามีอาหารครบ 3 มื้อ เมื่อนำมาใช้ร่วมกับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมกับคำแนะนำของกลไกคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนที่มีสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรมและสมาคมธนาคาร โดยไม่ต้องส่งหนังสือไปขอความร่วมมือจาก 20 เจ้าสัว ทำให้ย้ำภาพความเหลื่อมล้ำของสังคมให้แย่ลงไปอีก เพื่อเร่งเปิดปฏิบัติการนำทรัพยากรและมาตรการดังกล่าวมาใช้เป็นพื้นฐานบริหารการเปิดเมืองแต่ละจังหวัด การค้าเศรษฐกิจก็จะเดินหน้าต่อได้ โดยจัดการความเข้มงวดแต่ละจังหวัดแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมของเขาเอง” พล.ท.ภราดรกล่าว
พล.ท.ภราดรกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการแสดงออกร่วมกันของนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศที่จัดกิจกรรม #MobFromHome ทางช่องทางออนไลน์ขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น มันเป็นสัญญาณว่า ประชาชนคนรุ่นใหม่ไม่ไว้วางใจให้ผู้นำสืบทอดอำนาจอยู่ในตำแหน่งอีกต่อไป ดังนั้น เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดคลี่คลายลงประเทศก็จะยังคงติดหล่ม การจะเดินหน้าต่อไปได้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ทางการเมืองให้เป็นไปตามเจตจำนงของประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยตัวจริงเสียก่อน จึงขอให้ฝ่ายการเมืองเตรียมรับมือกับสถานการณ์นี้เอาไว้ได้เลย
