จตุพร ไลฟ์ ซัด จม.ลงประชามติ กกต. แจกประชาชน ยิ่งกว่าบิดเบือน

ภาพจากแฟ้ม-นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.

“จตุพร” ยกเรื่องเรียนฟรี ชี้ เนื้อหาในจม.เรื่องร่างรธน.ที่กกต.แจกปชช.ยิ่งกว่าบิดเบือน

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวทางเฟซบุ๊กไลฟ์ ว่า “ใครกันแน่ที่บิดเบือน” เพราะเนื้อหาในจดหมายการลงประชามติ ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ส่งไปยังบ้านเรือนประชาชน มีหลายเรื่องเข้าข่ายบิดเบือน เช่น เรื่องเด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนาอย่างเป็นระบบได้มาตรฐานก่อนเข้าเรียนอนุบาลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นเวลา 2 ปี และให้เรียนฟรีตั้งแต่อนุบาล1จนถึงศึกษาภาคบังคับ ชั้นมัธยมปีที่ 3 เป็นเวลา 12 ปี รวมเวลาไม่เก็บค่าใช้จ่าย 14 ปี ซึ่งระบุว่ารัฐอาจจัดการศึกษาฟรีจบม.6 หรือจบปริญญาตรีก็ได้ โดยให้รัฐจัดตั้งกองทุนขึ้นมา สนับสนุนการศึกษาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ โดยกองทุนจะสนับสนุนหรือให้กู้ยืมก็ได้ ต่างจากของเดิมเริ่มต้นที่รัฐให้เรียนฟรีจนจบม.6 แต่การเขียนในรัฐธรรมนูญให้ 12 ปี โดยให้เริ่มชั้นอนุบาลหนึ่ง และรวมก่อนที่จะเข้าอนุบาลอีก 2 ปี ซึ่งไม่ทราบว่ารัฐจะเข้าไปดูแลอะไร เพราะเด็กเพิ่งอายุ 2-3 ขวบและยังอยู่กับพ่อแม่ ที่สำคัญคำว่า “อาจจะจัดการศึกษาฟรีจนจบม.6นั้น” แปลว่าในวันข้างหน้ารัฐไม่ต้องรับผิดชอบอะไรก็ได้ และเป็นการสารภาพว่าไม่ได้เรียนฟรีจนถึงม.6 จริง ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว2557 ประกาศให้เรียนฟรีถึงม.6 เพราะในรัฐธรรมนูญไม่มี และทันทีที่มีรัฐธรรมนูญใช้จริง กฎหมายใดก็ไม่สามารถไปขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญไม่ได้ นี่คือความล้มเหลวของรัฐธรรมนูญ ที่ไปตัดสิทธิ์ของนักเรียนที่จะได้เรียนฟรีถึงม.6 ไปอ้างว่าไปเพิ่มในชั้นก่อนอนุบาล ซึ่งท้องถิ่นได้เพิ่มตรงส่วนนี้ไปแล้ว

“ดังนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)และกรธ. ไม่ต้องไปหาใครที่บิดเบือน เพราะในเอกสารจดหมายของกกต.แค่เริ่มต้นก็บิดเบือน มีการเติมเนื้อหานอกจากรัฐธรรมนูญเข้าไปคำว่าอาจจะเป็นการบิดเบือนรัฐธรรมนูญตั้งแต่วรรคแรกของหมวดการศึกษามาตรา 54 โดยพ่วงเติมท้ายเรื่องการตั้งกองทุนสำหรับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ไปตัดโอกาสการเรียนฟรีม.4-6” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร กล่าวว่า ส่วนประเด็นเรื่องศาสนา ที่กำหนดให้รัฐต้องมีมาตรการและกลไกป้องกันไม่ให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาไม่ว่ารูปแบบใด ซึ่งในรัฐธรรมนูญมาตรา 67 มีปัญหาที่ไปใส่คำว่ารัฐพึงส่งเสริมป้องกันและเผยแพร่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาท ถามว่าไปใส่ได้อย่างไร ทำไมจึงไม่เขียนรวมถึงศาสนาอื่นทั้งคริสต์ อิสลาม หรือ ศาสนาใดๆก็ต้องไม่มีใครบ่อนทำลายได้เช่นกัน และในปัจจุบันการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งความจริงเรื่องนี้ต้องจบได้แล้ว แต่เพราะความอคติจนคณะสงฆ์เป็นปัญหา การเขียนไว้ว่าป้องกันไม่ให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาในรัฐธรรมนูญ แต่ในปัจจุบันอธิบายชัดเจนว่ามีการป้องกันบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาแล้วหรือยัง เพราะมีใครที่ไหนก็ไม่รู้ที่เป็นพระอาจารย์ของคนในรัฐบาลและคสช.นำกางเกงยีนส์ เสื้อยืดกางเกงใน ผ้าอนามัยใช้แล้ วไปถวายสังฆทานกับสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ได้อย่างไร เป็นการไม่ปกป้องประมุขของสงฆ์และยังมีความเห็นแย้งกับมหาเถรสมาคมเรื่องการแต่งตั้งประมุขของสงฆ์ ซึ่งปกติแล้วอาณาจักรจะไม่แทรกแซงศาสนาจักร เห็นชัดเจนว่าภัยคุกคามพระพุทธศาสนาได้ปรากฏและความแตกแยกของพระพุทธศาสนาในอนาคตก็ยากที่ใครจะคาดคิดและประเมินถึง

Advertisement

นายจตุพร กล่าวถึงเรื่องการดีเบตว่า การที่กกต.พยายามปลุกกระแสนั้นความจริงจงใจที่จะให้เกิดความล่าช้าไม่ต้องการทำให้สำเร็จ การที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ไม่เข้าร่วมดีเบตก็จบข่าว คนอื่นจะมาก็เท่านั้น ฉะนั้นในซีกของนปช.ก็ปฏิเสธที่จะไปดีเบตเพราะไม่รู้จะดีเบตกับใคร ในเมื่อตัวการที่แท้จริงไม่ร่วมดีเบต โดยว่าไม่ต้องการให้เกิดข้อขัดแย้งทั้งที่จริงไม่ใ่เรื่องขัดแย้งอะไรแต่มองว่าตอบคำถามเรื่องหลักการประชาธิปไตยไม่ได้ต่างหาก และถ้าจะดีเบตจะเกิดขึ้นคงเกิดมานานแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image