นายกฯขอบคุณ ขรก.-รมต. เสียสละทำงาน-บูรณาการ สู้โควิด จนติดเชื้อเป็นศูนย์ครั้งแรก

“นายกฯ”ขอบคุณเจ้าหน้าที่ขรก.-รมต. ร่วมเสียสละทำงานบูรณาการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ลดตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ในสัปดาห์นี้ ชี้ ผ่อนคลายระยะ 2 เพื่อให้เศรษฐกิจดำเนินการได้ แต่ยังกังวลใจการแพร่ระบาดรอบสอง

เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 15 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน  โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) แถลงถึงผลการประชุมของศบค.ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะผอ.ศบค.เป็นประธานการประชุมโดยกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ข้าราชการ รัฐมนตรี ปลัดกระทรวง เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ศูนย์โควิด ที่ได้ทำให้ช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่คนไทยได้ผ่อนคลายมากที่สุด เนื่องจากมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ในสัปดาห์นี้ เสียสละทำงานหนักทุกวันเพื่อแก้ไขปัญหาและสถานการณ์ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา การทำงานครั้งนี้แสดงถึงการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและกลไกอื่นๆของสังคม รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงการรวมศูนย์อำนาจและการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ซึ่งทั้งสองวิธีนี้สามารถช่วยควบคุมการติดเชื้อได้ ขอชื่นชมผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารท้องถิ่นทุกระดับที่สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์และการสร้างการรับรู้ ปัจจัยความสำเร็จคือการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนให้มีความเข้าใจสถานการณ์และให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญส่งเสริมให้มาตรการของรัฐสัมฤทธิผล โดยขอให้ความสำคัญต่อไปเพราะจะเข้าสู่มาตรการระยะที่สอง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือมากขึ้นอีก เพราะทั้งใน social distancing และมาตรการต่างๆที่จะออกมาควบคุมมีผลกระทบต่อชีวิตของประชาชน หรือที่เรียกว่า new normal ทั้งนี้ หลายๆฝ่ายคาดการณ์เชิงบวกว่าถ้าเราจะผ่านวิกฤตนี้ประเทศไทยสามารถวางแผนและปรับเปลี่ยนสู่วิถีชีวิตใหม่ได้ก็จะเพิ่มศักยภาพและโอกาสของประเทศไทยในอนาคตด้วยศักยภาพของประเทศที่ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบกับอัตลักษณ์ความเป็นไทย รวมทั้งกล่าวชม “ตู้ปันสุข” จึงฝากการบ้านให้กับรัฐมนตรีทุกกระทรวงได้สั่งการออกแบบวางแผนการทำงานระบบใหม่ตั้งแต่นี้ต้นไป

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่ออีกว่า ขณะเดียวกันยังได้พูดถึงการตัดสินใจเข้าสู่มาตรการการผ่อนปรนระยะที่สอง ตรงนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าจะต้องผ่อนคลายเพื่อให้เศรษฐกิจดำเนินการไปได้ แต่ก็ยังมีความกังวลใจเรื่องการแพร่ระบาดของโรคคลื่นลูกที่สอง ทางนายกฯได้ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนทั้งหมดในสังคมเพื่อให้ข้อมูลทำความเข้าใจกับประชาชนทุกระดับอย่างกว้างขวางและช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมกลไกและช่องทางการสื่อสารของภาครัฐ

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการการผ่อนปรนได้มอบให้มีหัวหน้าสำนักงานประสานงานกลางเป็นประธาน ให้หลักการว่าต้องมีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะๆ โดยใช้ข้อมูลผลการปฏิบัติตามาตรการข้อกำหนดต่างๆ เพื่อจัดทำเป็นแนวทางการผ่อนคลายกิจการกิจกรรมร่างข้อกำหนดเพิ่มเติมตามความเหมาะสมต่อไปโดยคำนึงถึงปัจจัยด้านสาธารณสุขเป็นหลัก รวมทั้งผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนด้วย

Advertisement

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้นายกฯได้มีการพูดถึงการนำแพลตฟอร์มแอปพลิเคชั่น”ไทยชนะ”ที่ศบค.พัฒนาขึ้นมาติดตามการดำเนินงานของผู้ประกอบกิจการกิจกรรมต่างๆ ให้เป็นไปตามที่ราชการกำหนด ต้องประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจทั้งผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ เนื่องจากต้องใช้เครื่องมือตัวนี้มาป้องกันและปกป้องชีวิตและความปลอดภัยของพลเมืองเราเหมือนที่หลายๆประเทศใช้เทคโนโลยีมาติดตาม แต่ต้องให้ความมั่นใจในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลกับประชาชนด้วย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อด้วยว่า ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้คณะกรรมการเฉพาะกิจด้านกฎหมายไปศึกษาเรื่องของความจำเป็นในการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ กับการใช้กฎหมายปกติ เพื่อควบคุมการระบาด เพื่อเป็นข้อพิจารณาให้กับคณะกรรมการศบค.ในการประกาศขยายเวลาหรือยกเลิกประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ นอกจากนี้ยังแสดงความห่วงใยทางกระทรวงศึกษาธิการเรื่องการเปิดภาคเรียนในเดือนกรฎาคม อยากให้ทางกระทรวงประชาสัมพันธ์เตรียมความพร้อมสถานที่ เจ้าหน้าที่ต่างๆ

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ส่วนการควบคุมการเดินทางเข้าออกประเทศ ได้รับทราบข้อมูลของคนไทยที่จะกลับเข้ามา โดยขอให้คำนึงถึงความสมดุลของจำนวนผู้ลงทะเบียนและความพร้อมของทรัพยากรทางการแพทย์และขีดความสามารถการดูแลในสถานกักกันที่รัฐจัดการให้ และดำเนินการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดและพิจารณาให้ดูแลแรงงานต่างชาติกลับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งสำรวจที่พักอาศัยของแรงงานต่างชาติที่ไทยด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image