“แรมโบ้” ซัด “เต้น” ตอบแทนบุญคุณนายเก่าจนวันตาย เพราะได้โบนัสเป็นรัฐมนตรี 2 กระทรวง

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำ กลุ่ม นปช. เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และไปใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ว่า เรื่องของการพิจารณา พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น นายกฯได้ประเมินสถานการณ์ตลอดเวลาอยู่แล้ว ทั้งนี้จะต้องพิจารณาควบคู่กับด้านสาธารณสุขด้วย ซึ่งหากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังไม่นิ่ง ก็ยังไม่สามารถยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ทันที

ขณะเดียวกันนายกฯ ยังได้ให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ไปพิจารณาศึกษาเปรียบเทียบความจำเป็นในการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว ซึ่งรองนายกฯวิษณุ ก็ระบุแล้วว่า หากใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ที่ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ในการบริหารจัดการ อาจเกิดความลักลั่นได้ เช่น บางจังหวัดอาจตึง บางจังหวัดอาจหย่อนยาน เหมือน จ. ภูเก็ต กระบี่ และพังงา ที่เคยเกิดปัญหาก่อนหน้านี้ ที่มีการโยกย้ายของคน จึงจำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาคุมอีกฉบับหนึ่ง และรัฐบาลได้ใช้กฎหมายทั้งสองฉบับนี้คู่ขนานกันมาตลอด

ซึ่งตนยืนยันว่า ที่นายกรัฐมนตรียังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ ไม่ใช่เพื่อควบคุมความเคลื่อนไหว หรือปฏิกิริยาของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ที่วิพากษ์วิจารย์การทำงานของรัฐบาล เพราะนายกรัฐมนตรีไม่มีเวลามาคิดเรื่องการเมืองหรือความเคลื่อนไหวใดๆในขณะนี้ ต้องเร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนเป็นหลัก ทั้งนี้นายกฯพร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอจากทุกฝ่าย หากเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ วันๆสมองของนายณัฐวุฒิ ฯ คิดแต่เรื่องกล่าวหาโจมตีนายกรัฐมนตรี ไม่เคยคิดอะไรที่สร้างสรรค์ การคง พรก.ฉุกเฉินมีความจำเป็น แต่ค่อยๆทยอยผ่อนปรนทีระยะๆ ทำให้ไม่ผิดพลาด ไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย ไม่รู้นายณัฐวุฒิฯ เอาสมองส่วนไหนมาคิดว่า นายกฯ ต้องการคงไว้ เพื่อควบคุมการชุมนุมและการวิพากย์วิจารณ์ของนักการเมืองฝ่ายค้าน คิดได้แค่นี้จริงๆก็น่าสงสงสาร นายณัฐวุฒิฯ อย่าพยายามทำลายสมาธิการทำงานของนายกฯ เลย ไม่ได้ผลหรอก เพราะนายกฯและ ศบค.เดินมาถูกทาง จนทั่วโลกให้การยอมรับ ชื่นชมการแก้ปัญหาโควิดของประเทศไทย แต่พวกขี้อิจฉาริษยาที่ไม่เคยชื่นชมนายกฯ และรัฐบาล ทั้งที่ทุ่มเททำงานจนสามารถควบคุมปกป้องให้คนไทยให้สูญเสียน้อยที่สุดจากไวรัสโควิด-19

นายณัฐวุฒิ ควรนิ่งๆ ตั้งสมาธิทบทวนตัวเองในอดีตว่า เคยคิดร้ายอะไร ทำอะไรให้บ้านเมืองเสียหายย่อยยับบ้างหรือเปล่า ดีกว่าที่จะออกมาพูดจายุยงปลุกปั่น ให้เกิดความเกลียดชังรัฐบาลและนายกฯ เพื่อให้กลับไปมีชุมนุมชุลมุนวุ่นวายอีก เหมือนที่เคยทำกันมาจนบ้านเมืองเสียหายย่อยยับ เศรษฐกิจพังพินาศ มีอดีตแกนนำ นปช. เช่นนายสมหวัง อัสราศี และคนเสื้อแดงจำนวนมาก ที่คิดผิดกลับตัวกลับใจหลายคนมาพูดคุยกับตน บางคนมาพบตนด้วยตัวเองพร้อมจับมือร่วมกัน จะช่วยกันทำงานเสียสละเพื่อประเทศชาติและประชาชน เรายังมีโอกาสที่สังคมจะให้อภัยพวกเรา

Advertisement

“แต่คนอย่างนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ได้โบนัสเป็นถึงรัฐมนตรีสองกระทรวง ยากที่จะกลับตัวกลับใจอย่างแน่นอน จำเป็นต้องทำงานตอบแทนบุญคุณเจ้านายเก่าจนวันตาย เขายอมตายเพื่อตอบแทนบุญคุณ ไม่ได้มีอุดมการณ์อะไร มีแต่อำนาจและผลประโยชน์ต่างตอบแทนมากกว่า อย่าให้ตนและเพื่อนออกมาแฉอะไรมากกว่านี้เลย นายสมหวัง อัสราศี ฝากเตือนมาบอกด้วยว่า มีแกนนำบางคนที่เอาเงินที่ประชาชนบริจาคช่วยเหลือค่าทำศพวีรชนและช่วยเหลือครอบครัว นับสิบๆล้านบาท แต่กลับนำไปใช้ส่วนตัว จนทำให้นายสมหวังฯ ถูกสรรพากรฟ้องล้มละลาย สักวันหนึ่งนายสมหวังฯ จะออกมาพูดความจริง ถ้าแกนนำคนนั้นไม่หยุดนิ่ง และยังออกมาทำตัวปากดีมากนัก แต่นายสมหวังฯ ยังไม่เอ่ยชื่อตอนนี้ว่าเป็นใคร จะขอชี้แจงด้วยตัวเองเมื่อมีโอกาสเหมาะๆ” นายสุภรณ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image