เด็กภท. แนะ รัฐ พัฒนาระบบสาธารณสุข สร้างความเชื่อมั่น ฟื้นฟูศก. สวน ที่ผ่านมาประกาศชัยชนะ บนความพ่ายแพ้
เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่รัฐสภา บรรยากาศการอภิปรายพ.ร.ก.กู้เงิน แก้วิกฤตโควิด นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า ตนคิดว่า มาตรการที่เข้มงวดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินของรัฐบาล สามารถรักษาเรื่องสุขภาพ ได้ แต่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาน และระบบเศรษฐกิจของประเทศ จึงเป็นที่ของการออกพ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับนี้ แม้จะมีการนำเงินจำนวนถึง 5 แสนล้านบาท จากเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท มาเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างถ้วนหน้าด้วยการให้เปล่า เดือนละ 5,000 บาท 3เดือน แต่ในทางปฏิบัติยังมีความวุ่นวาย เพราะประเทศนี้ไม่มีฐานข้อมูล หรือ บิ๊กดาต้าของประชาชนที่ชัดเจน จึงไม่สามารถจัดการเงินให้ประชาชนอย่างทั่วถึงและทันเวลา อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่า จากนี้ไปเราจำเป็นต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสาธารณสุขของประเทศ แต่จากงบประมาณจากการกู้เงินที่จัดสรร จำนวน 4.5 หมื่นล้านบาท หรือ หรือ 4.5% จากวงเงินกู้ 1.1 ล้านล้านบาทนั้น ถือว่า น้อยมาก แม้ 2-3 เดือนที่ผ่านมา จะเห็นว่า ระบบสาธารณสุขมีความเข้มแข็งอย่างมาก แต่ตนคิดว่า เป็นความเข็มแข็งบนความขาดแคลน
“เขามีแต่หัวใจไปสู้ โดยที่มีแตกความเสี่ยง เพราะไม่มีเครื่องมือกับอาวุธในการต่อสู้บนโรคร้าย โดยเฉพาะ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพ.สต. ที่มีเครือข่ายที่เข้มแข็งกว่า 1 หมื่นแห่ง แต่ขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ในการยกระดับเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน โดยไม่ต้องไปแออัดกันที่โรงพยายาลประจำอำเภอเลย ซึ่งหากเราสามารถทำให้ระบบสาธารณสุขเข้มแข็งเราจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคการท่องเที่ยวในการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา เราได้ประกาศชัยชนะของระบบสาธารณสุขของประทศ แต่ผมคิดว่า มันเป็นชัยชนะบนความพ่ายแพ้ราบคาบของระบบเศรษฐกิจ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งกว่า เมื่อรัฐบาลได้กู้เงิน 1.9 ล้านแล้วบาท จะใช้เงินก้อนนี้เพื่อชัยชนะที่เกิดขึ้นกับคนไทยทั้งประเทศ บนความสำเร็จด้านสุขภาพและเศรษฐกิจไปพร้อมๆกัน” นายภราดร กล่าว
