‘อำนาจเหนือคน ทุกข์ทนทั่วทั้งชาติ’ สาวเสื้อดำร่ายกลอนเพื่อ ‘วันเฉลิม’ สหายร่วมเครือข่าย ย้ำ ไม่อยากเห็นรายต่อไป
สืบเนื่องจากกรณี นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้าร์ นักกิจกรรมและผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทย ที่อาศัยอยู่ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ถูกคนร้ายอุ้มหายบริเวณหน้าคอนโด เมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 มิถุนายน 2563 ขณะเดินลงมาซื้ออาหารหน้าที่พักนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) จัดกิจกรรม “ทวงความเป็นธรรมให้วันเฉลิมและผู้ลี้ภัยทุกคน #saveวันเฉลิม” บริเวณสกายวอล์ก หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยยึดมาตรการความปลอดภัยรองรับภายใต้โรคระบาดโควิด-19 ทั้งนี้ กิจกรรมช่วงแรกเป็นการอ่านรายชื่อผู้สูญหาย และการร่วมรำลึกถึงทวงความเป็นธรรมให้วันเฉลิมและผู้ลี้ภัย
ต่อมา “หมี่” สาวเสื้อดำ อ่านกลอนรำลึกถึงนายวันเฉลิม โดยระบุว่า แต่งออกมาจากความอัดอั้นตันใจ ประกอบกับความคิดถึงหลายๆ คนที่ต้องจากบ้านไปไกล อยู่ในต่างถิ่น และถูกบังคับสูญหาย ทั้งนี้ “หมี่” กล่าวว่า ไม่รู้จักกับนายวันเฉลิมเป็นการส่วนตัว ไม่เคยเจอหรือพูดคุยกันแต่อย่างใด แต่สิ่งที่รู้สึกได้คือความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับวันเฉลิม และกำลังคุกคามไปทุกที่
บทกลอนโดย “หมี่” ดังนี้
วิมานเหนือเมฆ เทวดาเหนือราษฎร์
อำนาจเหนือคน ทุกข์ทนทั่วทั้งชาติ
บ้านเมืองพินาศ ทรราชเหนือไพร่
คนถูกขับไล่ หายใจไม่ออก
ความยุติธรรมไม่งอก เขาบอกให้หาย
ยังทนอยู่กันได้ อีกแค่ไหนเหรอคนไทย
ต่อมา “ดัมพ์” สหายร่วมเครือข่ายนายวันเฉลิม กล่าวว่า รู้จักนายวันเฉลิมมา 10 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยทำงานเคลื่อนไหวเรื่องเอดส์และเพศ โดยนิสัยส่วนตัวนายวันเฉลิมด้านการทำงานเป็นแบบตรงไปตรงมา เป็นคนซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น ไม่อ้อมค้อม ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเพื่อน นายวันเฉลิมจะวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา โดยใช้มุขตลกช่วยก็ลดแรงปะทะ ดังนั้น ไม่ว่านายวันเฉลิมจะวิพากษ์วิจารณ์อะไรเราจะรับรู้ได้ว่าเขาไม่ได้วิจารณ์จากความเกลียดชังหรือเคียดแค้น
ดัมพ์กล่าวว่า มั่นใจและเชื่อว่าคนอย่างนายวันเฉลิมที่วิจารณ์อะไรอย่างตรงไปตรงมาไม่มีทางคิดไปฆ่าใครได้ แต่สิ่งที่น่าสลดใจแบบบรรยากาศที่เกิดขึ้นตอนนี้ คือสิ่งที่ควรคุ้มครองชีวิตประชาชนอย่างนายวันเฉลิมกลับทำในสิ่งตรงกันข้าม เราไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ ประชาชนอย่างนายวันเฉลิมควรอยู่ในประเทศตัวเอง ได้ทำงานภายใต้เครื่องมือการคุ้มครองของรัฐ นั่นคือกฎหมาย และดูแลครอบครัวของเขา ไม่ใช่คนที่ต้องหลบหนี และเกิดเหตุอย่างเมื่อวาน
“สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจมาพูดในโอกาสนี้คือ ไม่อยากเห็นประชาชนคนอื่นๆ ต้องเป็นรายต่อไป มันไม่ควรเกิดขึ้นกับประชาชนอย่างพวกเรา สิ่งที่รัฐควรให้ความคุ้มครองเราคือความมั่นคงในการประกอบอาชีพ ความรู้สึกในการใช้ชีวิตประจำวัน และอย่าให้มันเกิดขึ้นอีก” ดัมพ์กล่าว
