นักกิจกรรมถูกออกหมายเรียก ยืนยันไม่หยุดเคลื่อนไหว จี้รัฐติดตามกรณีอุ้มหายผู้ลี้ภัย
เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. นายทัดเทพ เรืองประไพกิจเสรี บัณฑิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสมาชิกกลุ่มเยาวชนปลดแอก (Free YOUTH) เปิดเผยว่า ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งหมายเรียกมาที่บ้าน หลังเข้าร่วมการเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา เร่งติดตามกรณีการหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองของไทย ที่ถูกชายฉกรรจ์บุกอุ้มหายไปขณะลี้ภัยอยู่ที่ประเทศกัมพูชา
โดยนายทัดเทพ เล่าว่า ส่วนตัวไม่คิดว่าจะถูกแจ้งข้อหาเอาผิดด้วย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นจากแฟนของตนเห็นโพสต์ข้อความทางโลกออนไลน์เชิญชวนให้ไปร่วมแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์และยื่นข้อเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งติดตามกรณีการหายตัวไปของนายวันเฉลิม จึงเดินทางไปร่วมชูป้ายหน้าสถานทูตกัมพูชา เมื่อวันจันทร์ที่ 8 มิ.ย. ต่อมา เห็นข่าวนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข หนึ่งในผู้ร่วมกิจกรรมเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งความเอาผิดผู้ร่วมกิจกรรม 6 ราย จากทั้งหมดหลายสิบคน ตนจึงโทรศัพท์ไปถามบ้านที่ตนมีทะเบียนบ้านอยู่ในเขตลาดพร้าว ป้าก็บอกว่ามีหมายเรียกผู้ต้องหามาจริง ด้วยข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้ไปพบเจ้าหน้าที่ในวันที่ 16 มิ.ย.เวลา 14.00 น . จากการสอบถามผู้ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาพบว่าเจ้าหน้าที่นัดวันเวลาต่างกันอีกด้วย
“ทั้งนี้กรณีการแจ้งความดังกล่าวด้วย พ.ร.ก.ฉุกเฉินในปัจจุบันเป็นการพาสังคมไทยให้กลับไปเหมือนสังคมช่วงหลังวันที่ 22 พ.ค. ที่เพิ่งมีการรัฐประหาร 6 ปีที่แล้ว ช่วงเวลาดังกล่าว หากใครออกมารวมตัวชุมนุม ก็จะถูกแจ้งข้อหา จับกุมดำเนินคดี โดยอ้างคำสั่งต่างๆของคสช. หรือจับกุมด้วย ม.116 ซึ่งการจับกุมคนที่แสดงออกทางการเมืองก็คล้ายกับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยหวังจากจะผลิตซ้ำความหวาดกลัวขึ้นมาในสังคม ซึ่งเคยได้ผลในอดีต แต่ปัจจุบันอาจจะเปลี่ยนไปแล้ว ประชาชนจะไม่อยู่เฉย ระดับความหวาดกลัวลดลงไปแล้ว ยืนยันว่าหลังจากนี้ก็จะไม่หยุดแสดงออกทางการเมือง”
