‘อนุทิน’ จ่อหารือทูตญี่ปุ่นร่างกรอบ ‘แทรเวล บับเบิล’ยัน พ.ร.ก.ฉุกเฉินช่วยเบาแรงสู้โควิด

‘อนุทิน’ จ่อหารือทูตญี่ปุ่นร่างกรอบ แทรเวล บับเบิล ชี้ ความสะดวก-ความปลอดภัยปชช.สำคัญที่สุด ไม่สำคัญว่าใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.บ.โรคติดต่อ

เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 19 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ ว่า ในวันนี้ได้เชิญอธิบดีกรมควบคุมโรค และเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นมาหารือเรื่อง Travel Bubble หรือการจับคู่ประเทศการท่องเที่ยว เพื่อหากรอบข้อตกลงระหว่างกัน โดยจะทำเป็นร่างก่อนว่า กติกาต่างๆ เหล่านี้สามารถยอมรับหรือไม่ เช่น การคัดกรอง Fit to Fly ก่อนเดินทางออกจากประเทศญี่ปุ่นแบบที่ประเทศไทยต้องการได้หรือไม่ หรือสามารถรับรูปแบบการคัดกรองของประเทศไทยก่อนที่คนไทยจะเดินทางไปญี่ปุ่นได้หรือไม่ ซึ่งเราก็ต้องเตรียมพร้อมเพื่อนำไปเสนอนายกรัฐมนตรี และที่ประชุม ศบค. ให้พิจารณาต่อไป เราจะค่อยๆ ทำเป็นขั้นๆ เพื่อให้กลับสู่ความเป็นปกติให้มากที่สุด

เมื่อถามว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะหมดอายุการบังคับใช้ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ทาง ศบค.จะมีการหารือเรื่องการบังคับใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ แทนหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ในส่วนนี้เราต้องนำไปหารือในที่ประชุม ศบค. ซึ่งจะต้องนำข้อดี ข้อเสียของกฎหมายทั้ง 2 ฉบับมาเทียบเคียงกัน แต่ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดว่าเราจะให้กฎหมายฉบับใดนั้นก็คือ ความสะดวก และความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญกว่ากฎหมาย

“พอเราเห็นว่าสถานการณ์เริ่มผ่อนคลายและผู้ติดเชื้อลดลง เราก็เห็นว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่มีความหมาย แต่หากลองย้อนกลับไปเมื่อ 3-4 เดือนก่อนว่า หากไม่ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็เหนื่อยเหมือนกัน” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในทางการแพทย์มองสถานการณ์ขณะนี้อย่างไร รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ตนได้เจรจากับอธิบดีกรมควบคุมโรค ซึ่งท่านบอกว่ายังคงต้องใส่หน้ากากอนามัยต่อไป ถึงแม้ตอนนี้ไม่มีการติดเชื้อในประเทศติดต่อกันเป็นวันที่ 26 แล้วก็ตาม ก็ถือว่าได้รับความร่วมมือที่ดีจากประชาชน ต้องขอบคุณมากจริงๆ อย่างไรก็ตามใส่หน้ากากอนามัยไว้ดีที่สุด ต่อให้ไม่มีเคอร์ฟิวแล้วก็ตาม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image