“ส.ส.ปชป.” วอน รบ.ปรับวิธีแจกแพคเกจท่องเที่ยวต้องไม่เหลื่อมล้ำ เอื้อโรงแรมใหญ่ จี้หันมองธุรกิจขนาดเล็กบ้าง
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเรียกร้องรัฐบาลเกี่ยวกับ “มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว” ว่า ต้องไม่ลืมผู้ประกอบการขนาดเล็ก โดยเฉพาะ แพคเกจ “เราไปเที่ยวกัน” ที่ให้โอกาสโรงแรมขนาดใหญ่มากกว่า โดยที่รัฐจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในเรื่องที่พักอัตรา 40% เพดานไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน สูงสุดไม่เกิน 5 คืน หรือ 15,000 บาท และสนับสนุนเงินอิเล็กทรอนิกส์ 600 บาท 5 วัน รวม 3,000 บาท มีคำถามว่า เรากำลังสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวพักโรงแรมใหญ่ที่ราคาที่พักคืนละ 7,000 บาทหรือไม่ เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคจะเลือกราคาที่พักที่สูงเพื่อใช้สิทธิแบบเต็มเพดาน จึงอาจเกิดข้อครหาได้ว่าการสนับสนุนครั้งนี้เอื้อโรงแรมใหญ่หรือไม่ แล้วโรงแรมเล็กๆ ที่คืนละไม่ถึงพันหรือพันกว่าบาทจะได้รับการดูแลหรือไม่ เพราะคงไม่มีใครอยากเสียสิทธิประโยชน์ที่จะได้จากรัฐคืนละ 3,000 บาท
“โรงแรมห้าพันบาท เจ็ดพันบาท จะขายได้ แล้วโรงแรมห้าร้อยบาทจะทำอย่างไรเพราะทุกคนจะเฮละโลไปนอนโรงแรมห้าดาวกันหมดโฮมเสตย์ของชาวบ้านก็อาจจะไม่ได้ ประโยชน์จาการเทงบลงไปในครั้งนี้ ดิฉันเห็นด้วยว่าโรงแรมใหญ่ได้รับผลกระทบมาก การช่วยเหลือก็จะช่วยพนักงานโรงแรมไปด้วย แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีความยืดหยุ่นเพื่อให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจโรงแรมทุกกลุ่ม เช่น ถ้านอนไม่ถึงเพดานที่รัฐสนับสนุนคืนละสามพันบาท เงินส่วนต่างนี้สามารถนำไปใช้อย่างอื่น เช่น รับประทานอาหารได้หรือไม่ เพื่อให้โรงแรมเล็กๆ อยู่ได้ด้วย ประเด็นนี้อยากให้คิดให้หนัก เพราะมีความเหลื่อมล้ำเกิดขึ้น เราต้องคิดถึงคนตัวเล็กตัวน้อยด้วย อย่าบอกว่าโรงแรมเล็กๆ ก็ไปได้ในส่วนของ อสม.จากแพคเกจกำลังใจ เพราะถือเป็นการตัดรอนสิทธิ อย่าให้ช่องทางช่วยเหลือคนเหล่านี้หายไปเพราะเท่ากับมองไม่เห็นปัญหาที่แท้จริง จนถูกมองได้ว่า เป็นเพราะไม่ค่อยฟังเสียงประชาชน ดังนั้นการกำหนดนโยบายต้องสร้างประโยชน์ที่เป็นธรรมด้วย”น.ส.พิมพ์รพี กล่าว
น.ส.พิมพ์รพี กล่าวต่อว่า ส่วนการช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยวของรัฐบาลสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยนั้นยังมีปัญหาในส่วนของผู้ประกอบการรายย่อยที่ยังไม่ได้เงินกู้ ถ้าเปรียบก็เหมือนกับคนเหล่านี้ว่ายน้ำไม่ได้ รัฐบาลต้องส่งเรือไปรับ อย่าปล่อยให้ผู้ประกอบการรายย่อยตาย เช่น นโยบายเรื่องอุดหนุนค่าที่พักสูงสุด 3,000 บาทต่อคืน ทำให้โรงแรมเล็กเสียโอกาส ดังนั้นรัฐบาลต้องปรับวิธีคิด คือคนยิ่งเล็กต้องยิ่งเพิ่มแรงให้เขา ส่วนคนตัวใหญ่อยู่แล้วให้แรงเขาน้อยหน่อยให้สู้กันได้ การหารเท่ากันไม่ได้หมายความว่าเป็นธรรม เพราะกำลังของแต่ละธุรกิจไม่เท่ากัน ทั้งนี้ในฐานะ ส.ส.ก็พยายามที่จะอภิปรายเพื่อเสนอแนะรัฐบาล เพราะสภาฯแทบไม่มีบทบาทในการร่วมพิจารณาโครงการเงินกู้ 4 แสนล้านบาท ดังนั้นสิ่งที่อยากฝากให้คิด คือการให้คนที่ไม่มีปัญหาคิดแผนงานอาจไม่ตรงประเด็น เพราะไม่เข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง ธุรกิจขนาดเล็กเสียงไม่ดัง เข้าไม่ถึงรัฐบาล แตกต่างจากธุรกิจใหญ่ที่มีโอกาสส่งข้อเสนอไปถึงรัฐบาลได้มากกว่า
