2 คณะกมธ.วุฒิสภา ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. สอบหาคนผิด รื้อบ้านเขียว
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล และ คณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) กรณีการรื้อถอนอาคารศูนย์เรียนรู้ป่าไม้สวนรุกขชาติเชตวัน โดยคณะกรรมาธิการเห็นว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจเป็นการกระทำที่ผิดต่อประมวลกฎหมายอาญา กฎหมายโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ แสดงถึงความบกพร่อง ส่อถึงการทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐและหน่วยงานอื่น
อาจมีผู้เกี่ยวข้องและต้องรับผิดชอบดังนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช – สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) จังหวัดแพร่ กรมศิลปากร โดยสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ห้างหุ้นส่วนแพร่โกสินทร์ก่อสร้างแต่ละหน่วยงานน่าจะมีความผิดตามกฎหมาย และระเบียบของทางราชการและการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ของรัฐก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นทั้งทรัพย์สินของราชการ
กระทบกระเทือนต่อความรู้สึกของประชาชนอย่างร้ายแรงอาจเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา พระราชบัญญัติโบราณสถานฯ พระราชบัญญัติว่าด้วยการอํานวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ นอกจากนี้ ข้าราชการที่เกี่ยวข้องอาจมีความผิดทางวินัยอีกด้วย
ทั้งนี้คณะกรรมาธิการทั้ง 2 คณะ ต้องการให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ดำเนินการต่อเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดโดยเร็วเพราะเป็นเรื่องสำคัญที่อยู่ในความสนใจของคนไทย ทั้งประเทศและไม่ต้องการให้กรณีเยี่ยงนี้เกิดขึ้นในประเทศนี้อีก
พล.ร.อ. ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล และนายมหรรณพ เดชวิทักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ได้มีความเห็นเพิ่มเติมร่วมกันว่าโบราณสถาน โบราณวัตถุ เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีค่าแสดงความเป็นมาของศิลปวัฒนธรรม พฤติกรรมในอดีต ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง กระบวนการเชิงช่าง
ด้วยความสำคัญดังกล่าวคณะกรรมาธิการร่วมกันจึงจะศึกษา เพิ่มเติมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเพื่อเสนอแนะแนวทางเชิงป้องกันมิให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นอีก และมาตรการเชิงบูรณาการการทำงานเพื่อเสริมสร้างและอนุรักษ์สมบัติชาติร่วมกันของกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเร็วต่อไป
