ก้าวไกล ขยี้ “ธรรมนัส” ไม่เลิก ตอกย้ำฉายา “รมต.เทวดา”
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกล ได้ยื่นคำร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ 2 เรื่อง โดยเรื่องแรกเป็นที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องแล้วคือเรื่องการติดคุกในต่างประเทศของของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไปแล้ว ไม่ว่าขั้นตอนจะเป็นอย่างไรขอให้ประชาชนช่วยติดตาม ส่วนเรื่องที่ 2 นั้นศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องพิจารณาความเป็นสมาชิกภาพส.ส.ของ ร.อ.ธรรมนัส สืบเนื่องจากที่ส.ส.พรรคก้าวไกล จำนวน 54 คน เข้าชื่อให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบสมาชิกภาพส.ส.ของร.อ.ธรรมนัส เนื่องจากพบข้อเท็จจริงว่าภรรยาของร.อ.ธรรมนัสถือหุ้นของบริษัท ตลาดคลองเตย (251) จำกัด ถึงร้อยละ 85 และบริษัทนี้ยังทำสัญญาเช่าพื้นที่กับการท่าเรือแห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี 2551 และหมดสัญญาปี 2561 จากนั้นยังมีการต่อสัญญาอีก 10 ปี ซึ่งจะหมดสัญญาในปี 2571 เป็นการถือหุ้นที่มีคู่สัญญากับรัฐ และมองว่าเป็นเช่าแบบผูกขาดหรือไม่ รวมถึงมีผู้เช่าเพียงรายเดียว จึงเป็นเหตุให้เป็นการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 วรรคหนึ่ง (2) และวรรคสาม มาตรา 101 (7) ซึ่งการที่ ร.อ.ธรรมนัส มีฉายาเป็นรัฐมนตรีเทวดา วันนี้ก็ตอกย้ำฉายานั้นอีกครั้ง แต่ไม่ว่ากระบวนการยุติธรรมจะเป็นอย่างไร ขอให้ประชาชนมองเรื่องนี้อย่างเป็นกลาง
“คดีแรกที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไปนั้นเป็นช่วงที่ร.อ.ธรรมนัสอยู่อีกฟากของอำนาจทางการเมือง แต่ช่วงที่สอง ร.อ.ธรรมนัสอยู่ฟากเดียวกับขั้วอำนาจในฝ่ายรัฐบาล จึงตั้งข้อสังเกตให้ประชาชนจับทิศทางกันดีๆ เพราะเมื่อวันที่ร.อ.ธรรมนัสต่อสู้เคียงข้างกับกลุ่ม 4 กุมารนั้น คำร้องใดยื่นเข้าไปเป็นผลอย่างไร แต่วันนี้เหตุการณ์ตะลุมบอลในพรรคพลังประชารัฐได้เงียบสงบลง และได้หัวหน้าพรรคที่มีอำนาจเต็มตัวจริงเสียงจริง แม้ว่าจะยังเดินทางมาไม่ถึงวันปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่อนาคตข้างหน้าคนที่อยู่เคียงข้างหัวหน้าพรรคคนใหม่จะมีอนาคตอย่างไร ทั้งนี้ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลสัญญาว่าไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ใดเราทั้ง 54 คนจะเดินหน้าตรวจสอบรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และครม.ต่อไป” นายณัฐชา กล่าว
