‘มาร์ค’ แนะ ‘บิ๊กตู่’ เร่งขจัดเงื่อนไขปรับ ครม. ชี้ต้องชัดเจน รีบทำ ดึงคนที่มีความสามารถช่วยกู้วิกฤตเพื่อสร้างเชื่อมั่น อัดงบ’64 ไม่ตอบโจทย์สถานการณ์พิเศษ
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 11 กรกฎาคม ที่มูลนิธิ 14 ตุลา แยกคอกวัว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดสรรงบประมาณตามร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจําปี 2564 ท่ามกลางวิกฤตทางเศรษฐกิจ ว่าจากโครงสร้างของงบประมาณปี 2564 ตนค่อนข้างแปลกใจที่มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ทั้งๆ ที่สถานการณ์ในขณะนี้ถือว่าเป็นสถานการณ์พิเศษ และจำเป็นต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยองค์ประกอบแรกที่มีความสำคัญมากอยู่ที่ผู้รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจ ต้องเร่งขจัดปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองให้หมดว่าใครจะรับผิดชอบอะไร เพื่อที่จะได้รู้ทิศทางที่ชัดเจน ขณะเดียวกันสถานการณ์โควิด-19 ยังมีความไม่แน่นอนสูงว่าจะกลับไปเป็นปกติได้เมื่อไหร่ ซึ่งไทยเป็นประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยวจากต่างประเทศค่อนข้างเยอะ ดังนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องมีแผนที่ชัดเจนว่าระยะเวลา 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี จะดำเนินการอย่างไร รวมถึงเงินที่รัฐบาลกู้มาต้องใช้อย่างคุ้มค่า ตอบโจทย์จริงๆ เพราะการใช้จ่ายจะยังไม่จบอยู่เท่านี้แน่นอน หากมีการใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่ายไม่มีประสิทธิภาพ หรือเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นจะเกิดปัญหามาก
เมื่อถามว่าในฐานะเป็นอดีตนายกฯ หากมีการปรับ ครม.เพื่อแก้วิกฤตต้องยึดหลักอะไรบ้าง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าการปรับ ครม.ก็ต้องเอาคนที่มีความรู้ ความสามารถ มีความสุจริต เข้ามาแล้วสามารถทำงานได้ โจทย์วันนี้ยากกว่าในหลายยุคหลายสมัยที่ผ่านมา จำเป็นต้องเอาคนที่มีความพร้อมจริงๆ และสร้างความเชื่อมั่นได้ โดยอะไรที่เป็นเงื่อนไขของความไม่แน่นอน หรือทำให้คนไม่มั่นใจ ต้องขจัดออกไปให้เร็วที่สุดก็ดีที่สุด ส่วนเงื่อนไขที่เกิดจากโควต้าต่างๆ ของพรรคการเมืองนั้น คิดว่าเรื่องนี้เป็นอำนาจของนายกฯ นายกฯต้องทำให้เสร็จให้เร็วเพื่อให้เกิดความชัดเจน ถ้าจะไม่ปรับก็บอกไปเลยว่าไม่ปรับ จะได้จบ เพื่อให้ทุกคนทำงาน คนที่เกี่ยวข้องจะได้มีความมั่นใจว่าใครจะรับผิดชอบงานอะไรต่อไป
