‘จุรินทร์’ เชื่อสัมมนานอกสถานที่ สัญญาณดี ชูพรรคต้องเป็นเอกภาพ ผลงานรูปธรรม เตรียมพร้อมผู้สมัคร ทั้งส.ส.-ท้องถิ่น ลั่นรักษาเก้าอี้เดิม เพิ่มเติมในเขตไม่มีส.ส.

‘จุรินทร์’ เชื่อสัมมนานอกสถานที่ สัญญาณดี ชูพรรคต้องเป็นเอกภาพ ผลงานรูปธรรม เตรียมพร้อมผู้สมัคร ทั้งส.ส.-ท้องถิ่น ลั่นรักษาเก้าอี้เดิม เพิ่มเติมในเขตไม่มีส.ส.

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่โรงแรมเสม็ด แกรนด์วิว รีสอร์ท เกาะเสม็ด จ.ระยอง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการสัมมนารัฐมนตรีและ ส.ส. ของพรรค นอกสถานที่ว่า เป็นเรื่องดีที่มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความเห็นการเมืองในบรรยากาศที่เป็นกันเอง เป็นส่วนตัว คิดว่าจะหาโอกาสจัดให้มีการพบปะกันแบบนี้บ่อยขึ้น และผลที่ปรากฏออกมาก็ถือว่าทุกคนช่วยกันระดมความคิดเห็นในการช่วยหาข้อสรุปร่วมกัน ว่าจะช่วยกันพาพรรคไปข้างหน้า นำไปสู่การพัฒนาเป็นที่ยอมรับของประชาชนมากขึ้นได้ ซึ่งข้อสรุปที่เห็นตรงกันอย่างน้อยพงที่สุด ก็คือคิดว่าประชาชนและสมาชิกพรรคทั้งประเทศอยากเห็นผลงานของพรรคที่ปรากฏเป็นรูปธรรม รวมถึงความเป็นเอกภาพภายในพรรค ซึ่งทั้งสองข้อนี้เป็นประเด็นที่มีความสำคัญ ทุกคนพยายามร่วมมือร่วมใจกันเพื่อแสดงความคิดเห็น ให้เดินไปสู่เป้าหมายนี้ แต่รายละเอียดขอให้เป็นเรื่องภายในว่าจะดำเนินการอย่างไร

เมื่อถามถึงการประเมินผลงานรัฐมนตรีของพรรค นายจุรินทร์ กล่าวว่า จะมีกระบวนการประเมินเป็นการภายในและการสำรวจความเห็นของประชาชนที่มีต่อการทำงานของรัฐมนตรี และส.ส.ของพรรค เพราะทุกคนถือว่าเป็นคนที่ประชาชนให้โอกาสมาทำงาน ซึ่งคะแนนรวมของรัฐมนตรีและส.ส.รวมถึงสมาชิกคนสำคัญของพรรค สุดท้ายก็จะกลายเป็นคะแนนรวมของพรรคที่ประชาชนจะตัดสินใจในการลงคะแนนให้ในการเลือกตั้ง(ครั้งต่อไป แม้ระหว่างทางประชาชนจะมีความเห็นต่อความนิยมของพรรคในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งก็ตาม

ส่วนการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า มีการพบปะกันเป็นระยะอยู่แล้ว ขณะนี้กำลังดำเนินการขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ให้เป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดตั้งตัวแทนประจำจังหวัด เพื่อให้พรรคสามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ครบทุกเขตตามกฎหมาย หากไม่มีตัวแทนจังหวัดหรือไม่มีสาขาพรรคอยู่ในเขตใดเขตหนึ่ง ก็ไม่สามารถส่งผู้สมัครได้ โดยนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งเป้าทำให้ครบถ้วนภายในเดือนสิงหาคมนี้ และถือโอกาสพบปะเพื่อนสมาชิกพรรคภายในเวลาเดียวกัน และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็มีการพบปะกันกับทีมภาคเหนือและภาคอีสาน และจะเดินทางไปพบกับทีมภาคใต้และกรุงเทพฯ เพื่อมีการแลกเปลี่ยนความเห็นเป็นระยะ ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้บริหารและรัฐมนตรีของพรรค ที่จะต้องรวบรวมความเห็นมาใช้ประกอบการดำเนินการต่อไปอยู่แล้ว เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่ามีกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.)บางคนรู้สึกน้อยใจที่ไม่ได้มาร่วมสัมมนาด้วย เหมือนกับไม่ให้ความสำคัญ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นการสัมมนาระหว่าง ส.ส.และรัฐมนตรีของพรรควงหนึ่งท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ กก.บห.ก็มีการประชุมไปแล้วอีกวงหนึ่ง และในการประชุมใหญ่สามัญ วันที่ 19 ก.ค. นี้ก็คงได้พบพร้อมกันอีกวงหนึ่ง หากบุคคลใดเกิดความไม่เข้าใจก็จะทำความเข้าใจ และเรื่องนี้เป็นเพียงกระแสข่าว ไม่มีตัวตนที่แท้จริงว่าเป็นใครอย่างไร แต่ทุกคนเป็นเจ้าของพรรค มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น หากอะไรมีความไม่เข้าใจอยู่บ้าง ก็จะได้ชี้แจงให้เข้าใจ และคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็ฟังเหตุผลกัน

Advertisement

“ขอย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์จะต้องมีผลงาน จับต้องได้เป็นรูปธรรม บวกความเป็นเอกภาพ ซึ่งทุกคนทราบแล้วว่าอะไรเป็นอย่างไร” นายจุรินทร์กล่าว

เมื่อถามถึง พรรคก้าวไกลประกาศความชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ทำทั้ง 2 ด้าน คือป้องกันพื้นที่ที่มี ส.ส.อยู่แล้ว และลงพื้นที่ที่ยังไม่มี ซึ่งคิดว่าทุกพรรคการเมืองก็ทำ พรรคประชาธิปัตย์ก็ทำ เพียงแต่ทำแล้วจะประกาศให้เป็นเรื่องโด่งดังหรือไม่ หรือบางกรณีอาจจะไม่ต้องประกาศออกไป ซึ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในสถานการณ์ แต่ขอย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้า และพยายามป้องกัน ผู้แทนฯที่ได้อยู่แล้วให้ได้ต่อไป และรุกคืบในพื้นที่ที่ไม่มีผู้แทนฯ ในทุกภาค รวมถึงกรุงเทพฯ ก็มีการเดินหน้าเป็นลำดับ มีการกำหนดทิศทางยุทธศาสตร์ทั้งหมดไว้แล้ว ส่วนภาคอีสาน ภาคเหนือ จะมีการลงพื้นที่ด้วยโดยกำหนดเป้าหมายพื้นที่ไว้เกือบจะเรียกว่า 70 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของทุกภาคแล้ว ว่าใครจะเป็นผู้สมัคร

ส่วนกรณีที่มีสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ย้ายพรรค ไปอยู่กับพรรคคู่แข่ง นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้สอบถามนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ดูแลกทม. บอกว่ามีส่วนหนึ่งได้ย้ายออกไปแล้วก่อนที่กรรมการบริหารพรรค(กก.บห.)ชุดใหม่จะเข้ามา แต่พยายามหาคนใหม่เข้ามา ซึ่งมีความคืบหน้าเป็นลำดับ ร้อยละ 70 โดยประมาณที่มีผู้สมัครชัดเจนแล้ว แม้แต่ สก. พรรคก็มีแผนงานลงพื้นที่เข้าไปดูแล ซึ่งตนในฐานะหัวหน้าพรรค มองว่าพื้นที่ที่แตกต่างในกรุงเทพฯ และทุกภูมิภาค ดังนั้นก็จะเดินสายไปพื้นที่ต่างๆ ร่วมกับรัฐมนตรี ผู้บริหาร คนรุ่นใหม่ของพรรค ในการทำพื้นที่สร้างความนิยมให้กับพรรค รวมทั้งไปทำกิจกรรมต่างๆ จัดโครงการยุวประชาธิปัตย์ จัดอบรมอุดมการณ์ประชาธิปไตยกินได้ เพื่อมุ่งเน้นอุดมการณ์ทางการเมืองให้สามารถเดินหน้าได้ ในเศรษฐกิจยุคนิวนอร์มอล เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังให้กับพรรคต่อไป รวมถึงการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพฯด้วย ก็มีการดำเนินการตามลำดับต่อไป

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image