กมธ.แก้ รธน. ยังไม่มีหารือ 3 ข้อเรียกร้อง น.ศ. ‘โรม‘ เชื่อม็อบไม่ถอย ยกประเด็นซอฟต์เพาเวอร์ลุยต่อแน่ ชี้ทั้งหมดอยู่ที่อำนาจ ‘บิ๊กตู่‘ แนะถอย กดปุ่มสั่ง ส.ว.เปิดทาง
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มนิสิตนักศึกษา และนักเรียนทั่วประเทศว่า กมธ.ยังไม่มีนำ 3 ข้อเรียกร้องของนิสิตนักศึกษาเข้าหารืออย่างเป็นทางการ เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการงดประชุมไป อย่างไรก็ตาม แม้การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถือเป็น 1 ใน 3 ข้อเรียกร้อง แต่ต้องยอมรับว่ากรอบการทำงานของ กมธ.ทำได้เพียงศึกษาเนื้อหาที่มีปัญหาและรับฟังความเห็นประชาชนเท่านั้น แต่การพูดคุยเคลื่อนไหวเพื่อหาข้อตกลงแล้วนำไปปฏิบัติ หรือแก้ไขอย่างจริงจังยังไม่เกิดขึ้น อย่าง ที่มา ส.ว. แม้ท่าทีของ ส.ว.จะอ่อนลง แต่ก็ยังไม่มีการคุยกันในระดับที่จะหาข้อสรุป หรือข้อตกลงร่วมกันว่า เพื่อประโยชน์ของประชาชน ส.ว.จะยอมให้ตัดอำนาจได้แค่ไหน เรื่องนี้ตนคิดว่าถ้าทำได้จะถือเป็นการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญอย่างสันติ แต่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่า ส.ว.จะยอม
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนคิดว่าแพคเกจ 3 ข้อ 1.ยุบสภา 2.หยุดคุกคามประชาชน และ 3.การแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ ที่นิสิตนักศึกษาและนักเรียนเสนอนั้น ล้วนอยู่ในอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แม้จะมีข้อโต้แย้งว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช้อำนาจของนายกฯเพียวๆ แต่ตนขอถามว่า ส.ว.มาจากไหน ทุกคนต้องไม่หลอกตัวเองว่า ส.ว.ฟังคำสั่งนายกฯ เวลาต้องผ่านกฎหมายให้นายกฯ มากันครบ แสดงให้เห็นว่า ส.ว.ทำงานให้นายกฯอยู่ ซึ่งถ้านายกฯกดปุ่มสั่ง ส.ว. ทุกอย่างก็จบ อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าการเคลื่อนไหวของนิสิตนักศึกษารอบนี้ต่างไปจากเดิม พวกเขาประสบความสำเร็จที่จะนำวัฒนธรรมอันเป็นซอฟต์เพาเวอร์ หรืออำนาจอ่อน เข้ามาปรับใช้ จนเชิญชวนคนให้เข้าร่วม เพราะสนุกจากกิจกรรมในการชุมนุม ซึ่งโดยธรรมชาติของการชุมนุม คำว่าถอย ไม่มี มีแต่คำว่ายกระดับมากขึ้น เพื่อให้รัฐบาลทำตามข้อเรียกร้อง ตนจึงหวังว่านายกฯจะไม่ตอบสนองช้าเกินไป เพราะถ้าตอบสนองช้า ความวุ่นวายของบ้านเมืองก็จะเกิดขึ้น จึงถึงเวลาแล้วที่นายกฯจะถอยให้ประชาชนบ้าง