อดีตเลขาสมช. บีบรบ. เร่งตอบสนองรื้อรธน. ชี้กมธ.ชงแก้ม.256 แล้ว บอก โยกโย้เจอม็อบยกระดับแน่
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองหลังนิสิตนักศึกษาทั่วประชุมออกมาชุมนุมอย่างต่อเนื่องว่า หากดูจากรูปการณ์การเคลื่อไหวตามข้อเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและยุบสภา ของนักศึกษาผสานกับพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นแฟลชม็อบ มาไวไปไว กระจัดกระจาย จุดยืนเดียวกัน พร้อมยกระดับการเคลื่อนไหวและจำนวนผู้ชุมนุมอย่างคับคั่ง บ่งชี้ถึงความพร้อม และแสดงถึงความต้องการอย่างชัดเจนว่า การตอบสนองข้อเรียกร้องของพวกเขาต้องรวดเร็ว ยิ่งเมื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ของสภาฯ เสนอให้มีกล่าวถึงข้อเสนอแก้มาตรา 256 เพื่อเปิดทางให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ดังนั้นฝ่ายการเมืองต้องเร่งตอบสนอง เพราะประชาชนเขารู้เท่าทันอ่านเกมการเมืองออก หากโยกโย้ไม่ทำ จะเจอแฟลชม็อบยกระดับเข้มข้นอย่างแน่นอน จนไปสู่วิกฤติซ้อนวิกฤติการณ์โควิด ซ้ำเติมสถานการณ์จนเป็นความโกลาหลวุ่นวาย
“หากขืนปล่อให้สถานการณ์เป็นเช่นนั้น รัฐบาลก็ไปต่อไม่ได้ ความเชื่อมั่นของประเทศจะทรุดฮวบ และคาดการณ์ไม่ได้ว่าสถานการณ์จะยุติลงด้วยรูปการณ์ใด ดังนั้น หัวใจของการคลี่คลายสถานการณ์บ้านเมืองให้สงบเย็นลงโดยเร็ว คือความรวดเร็วในการจัดการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้มีกติกาของการเลือกตั้งที่มีเสรีภาพและเป็นธรรม บวกกับประเด็นสำคัญในการห้ามให้ส.ว. มาเป็นอุปสรรคของการเลือกตัวนายกรัฐมนตรีและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากนั้นเดินหน้ายุบสภาและไปโหมดการเลือกตั้งอย่างรวดเร็ว ส่วนการแก้ไขเติมเต็มรัฐธรรมนูญ ก็จะเกิดขึ้นโดยมีส่วนร่วมของภาคประชาชนทุกภาคส่วนหากได้ดำเนินการไปตามแนวทางดังกล่าวได้ เชื่อมั่นได้เลยว่า สถานการณ์ของบ้านเมือง จะกลับมาสู่ครรลองของประชาธิปไตย วิกฤติการณ์และปัญหาต่างๆของประเทศ จะมีทางออกและแก้ไขได้เสมอ” พล.ท.ภราดร กล่าว
