แกนนำ น.ศ.รับ หวั่น ‘ไม่ปลอดภัย’ แต่สู้ต่อ สอน จนท.รัฐ ‘ชาติคือ ปชช.’ ยัน สายน้ำเชี่ยวจะพังเขื่อนและอำนาจ
สืบเนื่องจากกรณีที่ นายอานนท์ นำภา ทนายความศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง แกนนำเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับในข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา จากการปราศรัยและเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้น
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่สกายวอล์ก หน้าศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ มีการประกาศรวมพลัง จัดกิจกรรมแฟลชม็อบ #ถ้าไม่สู้ก็อยู่อย่างทาส ผ่านทางโซเชียล โดยระบุว่า “เมื่อกฎหมายเป็นเครื่องมือของเผด็จการ มันคงถึงเวลาของนักสู้เพื่อประชาธิปไตย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.30 น. มีประชาชนทยอยเดินทางมาร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่สวมใส่เสื้อสีดำ และยืนหลบแดด ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่เทศกิจ กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานความมั่นคงนอกเครื่องแบบหลายนายรอบบริเวณ
จากนั้น เวลา 17.03. น. น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ และนายชลธิศ โชติสวัสดิ์ แกนนำคณะประชาชนปลดแอก ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ใน 31 รายชื่อขึ้นปราศรัย
น.ส.จุฑาทิพย์กล่าวว่า ใน 31 รายชื่อ มีทั้งหมายเรียกและหมายจับ ตอนนี้ไม่สามารถรับประกันชีวิตตัวเองได้ ถ้าวันนี้หรือวันไหนไม่เห็นเราในบทบาทเรียกร้อง อยากให้ทุกคนติดตาม ยอมรับว่าไม่ค่อยมีความปลอดภัยในชีวิต แต่สู้ต่อไปแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 17.07 น. ฝนตกลงมาอย่างหนัก แกนนำจึงประกาศให้ผู้ชุมนุมหาที่หลบฝนก่อนจะดำเนินกิจกรรมต่อไป
น.ส.จุฑาทิพย์กล่าวต่อว่า เราอยู่ใน 31 รายชื่อ ซึ่งเมื่อวานนี้ได้เปิดตัว “คณะประชาชนปลดแอก” ตอนนั้นค่อนข้างสับสน แต่ก็เชื่อว่าจะผ่านไปได้ สิ่งที่เกิดกับทั้งทนายอานนท์ และไมค์ ไม่ใช่เรื่องปกติ ที่รัฐกระทำกับเรา เพื่อนเราต้องโดนแบบนี้ เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกิดขึ้นในประเทศที่มีเบื้องหลัง
อยากให้ทุกคนช่วยกันพูดถึงต้นตอของปัญหา เชื่อว่าสิ่งที่ทนายอานนท์พูดเป็นสิ่งที่ทำได้ ไม่ว่าจะอยู่บนดินหรือบนฟ้า ทุกคนคือคนเท่ากัน จงจำไว้ว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น “ชาติเท่ากับประชาชน” ประชาชนคือเจ้าของประเทศแห่งนี้ ประชาชนจากศาลอาญาก็จะมาสมทบที่นี่
ด้านนายชลธิศกล่าวว่า เมื่อวานที่ สน.บางเขน สะท้อนว่า ข้าราชการที่กินเงินเดือน ไม่เปิดไฟ ไล่ให้อยู่ชุมนุมได้แค่ 20.00 น. เจ้านายของเขาคือประชาชนหรือใครกันแน่
“ถามผม ผมก็กลัว ผมก็กังวล แต่เราเหมือนกับสายน้ำ รัฐบาลเอาตัวเองยืนขวางกั้น แต่เมื่อสายน้ำเชี่ยวกรากจะพังเขื่อนและอำนาจของเขาทั้งหมด” นายชลธิศกล่าว
