กัญจนา ชี้ รธน.ปี 60 มีปัญหา ควรได้รับการแก้ไข แต่ ชทพ.ขอรอฟัง กมธ.พิจารณาแก้ไขรธน.ฯก่อน ยก รธน. 40 เป็นฉบับ ปชช.ดีที่สุด

กัญจนา ชี้ รธน.ปี 60 มีปัญหา ควรได้รับการแก้ไข แต่ ชทพ.ขอรอฟัง กมธ.พิจารณาแก้ไขรธน.ฯก่อน ยก รธน. 40 เป็นฉบับ ปชช.ดีที่สุด

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่ห้องจูปิเตอร์ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 โดยน.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ชทพ. ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ทั้งนี้บรรดาส.ส. กรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรคจากทั่วประเทศ เข้าร่วมบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดย น.ส.กัญจนา กล่าวตอนหนึ่ง ว่า พรรคชทพ.มีโอกาสทำงานฝ่ายบริหารใน2 กระทรวงที่สำคัญ คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยบทบาทความรับผิดชอบของทั้ง 2 กระทรวงกว้างขวางอย่างมาก สามารถดูแลทุกข์สุขให้ประชาชนได้ทุกระดับชั้นไปจนถึงชนบท ถือเป็นความภูมิใจของพรรคชาติไทยพัฒนา และต้องกราบขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกลาโหม ที่ให้โอกาสพรรคชทพ. ได้ทำงานในสองกระทรวงที่สำคัญนี้ และอีกความภูมิใจหนึ่งของพรรค คือ รัฐมนตรีทั้งสองคนไม่ได้สร้างความผิดหวังให้กับพวกเราทุกคน โดยนายวราวุธ ทำงานจนอ้วนขึ้น เพราะไม่มีเวลาออกกำลังกาย ส่วนนายประภัตร ทำงานจนหนุ่มขึ้น เพราะทำจนลืมอายุตัวเอง

น.ส.กัญจนา กล่าวอีกว่า ถึงแม้ว่าวันนี้ไม่มีนายบรรหาร อยู่กับพวกเราแล้ว แต่พรรค ชทพ.ยังยึดมั่นตามเจตนารมณ์ของนายบรรหารอย่างแน่วแน่และเข้มแข็ง ตามที่นายบรรหารได้สอนให้พวกเรามุ่งเน้นทำงานไม่ต้องพูดมาก ไม่สร้างปัญหา ไม่สร้างศัตรู ใครว่าร้ายอะไร เรามีหน้าที่ต้องชี้แจง เรามีหน้าที่ที่ต้องแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ช่วยอะไรทำได้ก็ทำเต็มที่ในกรอบความรับผิดชอบและกรอบกฎหมาย เราทำทุกเรื่อง แต่เราพูดไม่เก่ง นายบรรหารย้ำกับทุกคนเสมอว่าเรามีมิตร 100 คน ก็น้อยไป มีศัตรู 1 คนก็มากไป และนายบรรหารก็ไม่เคยถือใครเป็นศัตรู เวลาใครให้ร้ายว่าร้าย แน่นอนความเป็นปุถุชนในตอนแรกก็ต้องมีอารมณ์ แต่สุดท้ายก็วางลงได้ แต่ในยุคสมัยนี้ไม่ค่อยจะเป็นเช่นนั้น สังคมมีความแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่ายมากเหลือเกิน ต่างคนต่างถือเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ และไม่ค่อยยอมฟังความเห็นต่าง ทั้งที่ในความเป็นจริง ความเห็นต่างมีในทุกสังคมในทุกประเทศชาติ และในความเป็นจริงก็เป็นเรื่องที่ดี เป็นไปไม่ได้ในทุกที่ที่ทุกคนจะมีความเห็นเหมือนกันหมด เพียงแต่เราต้องเปิดใจและเปิดหูที่จะรับฟังความเห็นของคนอื่นด้วย

น.ส.กัญจนา กล่าวต่อว่า ในสังคมประกอบด้วยคนทุกรุ่น ทั้งรุ่นเก่ารุ่นกลางและรุ่นใหม่ ถ้าไม่มีคนรุ่นเก่าใครจะสร้างชาติมาให้เรา และถ้าไม่มีคนรุ่นใหม่ใครจะสืบสานชาตินี้ต่อไป เพราะฉะนั้นคนทุกรุ่นในสังคมสำคัญทั้งหมด ฉะนั้นเราอย่าแบ่งแยกกันเลยว่านี่คือคนรุ่นเก่าและนี่คือคนรุ่นใหม่ ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นตัวอย่างที่ดีของการผสมผสานคนทุกรุ่น เรามีคนร่วมรุ่นอยู่ทุกรุ่นและเรารับฟังซึ่งกันและกัน โดยไม่ได้ถือว่าเป็นพรรคการเมืองของคนรุ่นไหน เพราะประเทศชาติต้องประกอบไปด้วยคนหลากหลายอยู่แล้ว รัฐธรรมนูญทุกฉบับมีทั้งจุดแข็ง ข้อดี และมีทั้งที่เมื่อใช้ไประยะหนึ่งก็พบว่ามีปัญหา ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับปี 60 ก็เช่นกัน พรรคชาติไทยพัฒนาเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีประเด็นที่มีปัญหาและสมควรได้รับการแก้ไข แต่จะแก้ไขในเนื้อหาอะไรบ้างในกระบวนการแก้ไขแบบใดนั้น เราขอฟังข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่ทางรัฐบาลได้จัดตั้งขึ้นก่อน ซึ่งทราบว่าภายในต้นเดือนกันยายนจะมีการเสนอผลการศึกษา และขอฟังความคิดเห็นข้อเสนอของประชาชนทุกกลุ่มที่ขณะนี้ออกมาเรียกร้องกันมากมาย และจากนั้นพรรคชทพ.จึงจะมาประชุมและกำหนดท่าที ก่อนจะเป็นความคิดเห็นของพรรคชทพ.อีกครั้งหนึ่ง

Advertisement

น.ส.กัญจนา กล่าวด้วยว่า เราให้ความสำคัญไม่เฉพาะเพียงเนื้อหาว่าจะแก้ไขอะไร แต่กระบวนการที่ให้ได้มาซึ่งการแก้ไขนั้นก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะถ้าที่มาของการแก้ไขไม่เป็นที่ยอมรับ ต่อให้ผลออกมาอย่างไร ก็จะไม่เป็นที่ยอมรับ ในสมัยที่พรรคชาติไทยภายใต้การนำของนายบรรหาร เมื่อปี 2538 ได้หาเสียงโดยชูประเด็นการปฏิรูปการเมือง แก้ไขรัฐธรรมนูญ และเมื่อได้มาเป็นรัฐบาล เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2538 นายบรรหารได้ตั้งคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง โดยมีนายชุมพล ศิลปอาชา เป็นประธาน ได้มีการศึกษาและนำมาซึ่งการจัดตั้ง สสร. ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนประชาชนทุกจังหวัดจากทุกกลุ่มอาชีพ นำมาซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 ซึ่งนับถึงทุกวันนี้ยังถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่ดีที่สุด แต่ในเวลานี้บริบทของสังคมและการเมืองมีความเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเราจะทำเหมือนเมื่อปี 2538 หรือปี 2540 เป๊ะเลยนั้น ก็คงต้องมาพิจารณาดูอีกครั้งหนึ่ง

น.ส.กัญจนา กล่าวต่อว่า ตนในฐานะหัวหน้าพรรค ชทพ. มุ่งมั่นนำพรรค ชทพ. ทำงานให้ประชาชนเพื่อให้เป็นพรรคการเมืองของประชาชน แก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างเอาจริงเอาจัง และถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้ เราจะไม่ได้เป็นพรรคที่ใหญ่เหมือนสมัยนายบรรหาร แต่เราเป็นพรรคที่อบอุ่นและมีประสิทธิภาพ พร้อมจะเติบโตต่อไป แต่ตนก้าวเดินคนเดียวไม่ได้ ต้องได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนสมาชิกทุกคนและเชื่อว่าเราจะก้าวไปด้วยกัน นำพาพรรคชาติไทยพัฒนาให้เป็นพรรคของประชาชน แก้ปัญหาดูแลทุกข์สุข และวันหนึ่งเราจะเติบโตขึ้นกว่านี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image