‘ปลดแอก’ จวกปมคุกคามปชช. จ่อนอนค้างแยกคอกวัวพฤหัสนี้ก่อนไปสน.สำราญราษฎร์

‘ปลดแอก’ จวกปมคุกคามปชช. จ่อนอนค้างแยกคอกวัวพฤหัสนี้ก่อนไปสน.สำราญราษฎร์

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่ม’ดาวดิน สามัญชน’ มีการเปิดเผยถึงการเตรียมจัดกิจกรรม ‘มหกรรมประชาชน นอนแคมป์ไม่นอนคุก #เราคือเพื่อนกัน’ ระหว่างวันที่ 27-28 สิงหาคมนี้ โดยจะมีการปราศรัยและฉายภาพยนตร์ การแสดงดนตรีในช่วงกลางคืน จากนั้นในช่วงเช้าของวันที่ 28 จะเดินทางไปยังสน.สำราญราษฎร์ ในขณะที่ ‘คณะประชาชนปลดแอก’ เผยแพร่ข้อเขียนระบุว่า

เป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ ที่ประชาชนกว่า 20,000 คน ได้แสดงพลังร่วมกันออกมาชุมนุมใน #ขีดเส้นตายไล่เผด็จการ เพื่อส่งเสียงสนับสนุนข้อเรียกร้อง 3 ข้อไปยังรัฐบาล หากแต่รัฐบาลยังคงเพิกเฉย ปิดหูปิดตาไม่สนใจประชาชน แม้แต่ข้อเรียกร้องแรกที่สามารถทำได้ทันทีอย่างกาาหยุดคุกคามประชาชน ก็ยังมีท่าทีที่นิ่งเฉย ทั้งยังเดินหน้าละเมิด คุกคามประชาชน ทั้งนักเรียน นักศึกษาศิลปิน อยู่ไม่เว้นในแต่ละสัปดาห์

ความตอนหนึ่ง ดังนี้

‘การคุกคามประชาชนในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมานี้ จากการสำรวจและเก็บสถิติของผู้สังเกตการณ์ชุมนุม พบว่ามีการคุกคามไม่ต่ำกว่า 70 ครั้ง โดยลักษณะการคุกคามที่เห็นประจักษ์ต่อสังคมที่สุด คือการคุกคามโดยใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ ด้วยการออกหมายจับ-หมายเรียก รวมไปถึงการจับกุมนักกิจกรรมทางการเมืองไม่เว้นแต่ละอาทิตย์ ซึ่งมักจับกุมในช่วงเย็นของวันพุธ-พฤหัส-ศุกร์ และมีการย้ายสถานที่ไปเรื่อย ๆ เพื่อขัดขวางการกดดันของประชาชน ตัวอย่างเช่น เคสของ ’ทนายอานนท์’ ที่ถูกจับกุมในวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม โดยไม่มีการออกหมายเรียกมาก่อน และได้ทำการเคลื่อนย้ายไปมาระหว่าง สน.ชนะสงคราม-ศาลอาญารัชดา จนกระทั่งศาลไม่อนุมัติฝากขังและได้รับการประกันตัวโดยมีเงื่อนไข

Advertisement

นอกจากการจับกุมและการใช้กฎหมายคุกคามประชาชนแล้ว ยังมีการคุกคามในลักษณะการนำเจ้าหน้าที่ทั้งใน-นอกเครื่องแบบไปวนเวียนหน้าที่พักในยามวิกาล ในกรณีของ ‘รุ้ง’ และ ‘มิน’ ผู้ปราศรัยในงานชุมนุม #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน โดยในกรณีของมิน ได้มีการข่มขู่ผ่านสถานศึกษาและคนใกล้ตัว โดยผู้ถูกคุกคามที่มีอายุน้อยที่สุดคือ 12 ปี!

การคุกคามประชาชนไม่ได้มีแค่การคุกคามโดยอำนาจทางตรงเท่านั้น หากแต่ยังมีการคุกคามประชาชนผ่านสื่อ โดยหวังให้เกิดอำนาจอ่อน (Soft power) ดังเช่นโฆษณา ’รักจากแม่…รักบริสุทธิ์’ (แม่ vs ม็อบ) ของกรมประชาสัมพันธ์ ที่มีเนื้อหาในลักษณะโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) สร้างภาพจำผิด ๆ ให้กับผู้เข้าร่วมชุมนุมว่าเป็นคนรุ่นใหม่หัวรุนแรง ยึดมั่นในประชาธิปไตยแบบผิด ๆ โดยไม่สนใจความสัมพันธ์ในครอบครัว หรือแม้กระทั่ง MV เพลง ‘ธงชาติ’ ที่เผยแพร่ผ่านช่องยูทิวบ์ของกรมประชาสัมพันธ์ ในบางตอนมีฟุตเทจของการปราศรัย-ชุมนุม-แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ในความหมายของการสะท้อนว่าผู้ชุมนุมไม่รักชาติ และกำลังทำร้ายชาติของตนอยู่ โดยหวังสร้างวาทะกรรม ‘ชังชาติ’ เป็นภาพจำแก่ผู้ชุมนุมทางการเมือง จนหลงลืมไปว่าแท้จริงแล้ว ‘ชาติ’ ก็คือ ‘ประชาชน’

ความนิ่งเฉยของรัฐบาลและการคุกคามประชาชนไม่ได้เป็นเพียงแค่อุปสรรคของการเรียกร้องเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการราดน้ำมันบนกองเพลิงที่ยิ่งจะทำให้ประชาชนลุกฮือขึ้นมาส่งเสียงอีกครั้ง

Advertisement

เมื่อสิบคนพูดแล้วหนึ่งคนไม่ได้ยิน อีกร้อยคนจึงต้องลุกขึ้นมาตะโกน เพื่อ #ขีดเส้นตายไล่เผด็จการ และตอกย้ำว่าประเทศนี้เป็นของประชาชน ไม่ใช่แค่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น’

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image