ม็อบเขื่อนเหมืองตะกั่ว ยืนยัน ไม่กลับจนกว่า “บิ๊กตู่” จะลงนามยุติก่อสร้าง ด้าน “ก้าวไกล” จ่อยื่นกระทู้ถาม”บิ๊กตู่-รมว.เกษตร”พรุ่งนี้ พบ รายงานมีพิรุธเพียบ
เมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่รัฐสภา นายประเสริฐพงศ์ ศรนุวัตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงความคืบหน้าการชุมนุมของชาวบ้าน อ.หมองตะกั่ว จ.พัทลุง หลังคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ได้ตัดงบประมาณโครงการอ่างเก็บน้ำบ้านเหมืองตะกั่ว จังหวัดพัทลุง และโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เนื่องจากประชาชนไม่ได้ประโยชน์ว่า ตอนนี้เราพบความไม่ชอบมาพากลของโครงการก่อสร้างเขื่อนเหมืองตะกั่ว จ.พัทลุง แม้ล่าสุดจะมีการตัดงบประมาณเพื่อการก่อสร้างเขื่อนไปแล้วก็ตาม โดยพี่น้องชาวพัทลุงที่เดินทางมาเรียกร้องยืนยันที่จะไม่กลับ จนกว่าจะมีข้อยุติโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต้องลงนามเป็นเอกสารแจ้งให้กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบเท่านั้น โดยพรรคก้าวไกล มีมติให้ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา ถึงพล.อ.ประยุทธ์ หรือรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อให้ตอบปัญหาว่า จะสามารถแก้ไขโดยยกเลิกโครงการนี้ เพื่อยืนยันว่าการผลักดันเพื่อให้การก่อสร้างเขื่อนเป็นสิ่งที่ผิดปกติหรือไม่
นายประเสริฐพงศ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม การตั้งงบประมาณสร้างเขื่อนดังกล่าวพบว่า ผลของการศึกษามีการปลอมแปลงรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยพบการแปลงข้อมูลเท็จ และรายงานผลกระทบไม่ครบถ้วน มีเนื้อหาลอกมาจากจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นลักษณะรายงานกระตุกปก ถือเป็นความไม่ชอบมาพากล ซึ่งชาวบ้านไม่เชื่อว่าโครงการนี้เป็นโครงการตามพระราชดำริจริง ทั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเองก็เคยเข้าไปตรวจสอบเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว และเคยแจ้งผลไปยังผู้บริหารว่า ควรระงับโครงการเอาไว้ ซึ่งการตั้งข้อกังวล ข้อสงสัย ข้อซักถามของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของเขื่อนที่มีอยู่แล้วอีก 2 เขื่อน ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน โดยชาวพัทลุงออกมาเรียกร้องที่กรุงเทพฯได้รับการกดดัน คุกคามจากกลุ่มคนที่สนับสนุนเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ทั้งผลพวงอีกหลายประการที่ยังเป็นข้อกังวล เช่น การลักลอบแอบตัดไม้ขาย ซึ่งพื้นที่บริเวณที่จะก่อสร้างเขื่อนดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยทราบว่ากลุ่มที่พยายามผลักดันให้มีการก่อสร้างเขื่อน เอารายชื่อของบุคคลภายนอกประมาณ 106 ราย ว่าได้เข้าไปในป่าสงวนแล้วจะได้รับค่าชดเชย
